เหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง…
ผู้เล่ากล่าวว่าคนที่เล่าเรื่องตายแล้วไปไหนให้เราฟังเป็นเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง
เขาเล่าว่าเหตุเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศวังเวงในบริษัทเก่าแก่แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งร่ำลือกันว่าเมื่อครั้งอดีตเคยเป็นป่าช้ามาก่อนมีประวัติโจษจันเล่าขานกันมากมายที่เดียวเกี่ยวกับเจ้านายดุและผีหลอก
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา นางสาวกิ่งแก้ว(นามสมมติ)พนักงานพิมพ์ดีดวัยเบญจเพสมีภารกิจการงานต้องสะสางมากมายวุ่นวายเป็นพิเศษ
เนื่องจากเป็นการทำงานวันสุดท้ายในรอบปีรวมทั้งรุ่งขึ้นพรุ่งนี้จะย่างเข้าสู่ช่วงของลองวีคเอนด์ตลอดวันนั้นจึงเกือบๆ จะมีสภาพเป็นวันโลกาวินาศสำหรับกิ่งแก้วโดยแท้
เธอต้องเคร่งเครียดหมกมุ่นอยู่กับงานตั้งแต่เช้าจนบ่าย(และไม่มีเวลาว่างกินข้าวมื้อกลางวัน)กระทั่งเคลื่อนคล้อยกลายเป็นค่ำเพื่อนร่วมงานหลายคนค่อยๆ ทยอยแยกย้ายยกันกลับบ้านทำไปทำมาท้ายที่สุดทั้งบริษัทก็เหลือเธออยู่เพียงคนเดียว
ตอนนี้ล่ะบรรยากาศในตึกเก่าๆ ทึมๆ แสงไฟสลัวจนแลดูแล้วชวนสยองรวมทั้งเสียงแกรกกรากของกระดาษกระพัดกระพือและอะไรต่อมีอะไรก็เริ่มแสดงบทบาทหน้าที่ของตนเองออกมาชัดเจนและค่อยๆ ทบทวีความวังเวงมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่กิ่งแก้วทำงานของเธอเสร็จสรรพและเตรียมตัวเก็บข้าวของเพื่อจะกลับบ้าน
เธอเหลือบชำเลืองมองไปยังผนังกำแพงด้านใกล้ๆโต๊ะทำงาน พลันก็ต้องตกใจสุดขีดส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น สีหน้าซีดเผือดราวกับเลือดในกายเหือดแห้งหมดร่าง
สิ่งที่กิ่งแก้วเจอนั้น…ทำให้เธอเป็นเช่นนี้…สิ่งนั้นคือ…..
ใช่แล้ว…สิ่งที่กิ่งแก้วพบคือ…ปฏิทินนี่เอง!
และสาเหตุที่ทำให้กิ่งแก้วตกใจเจ้าปฏิทินซึ่งดูแล้วไม่น่าจะตกใจเลย
เธอต้องพบเห็นกับวันหยุดต่อเนื่องยาวนายหลายวัน
ทำให้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ตระเตรียมวางแผนจะไปเที่ยวไหนในช่วงวันหยุดเหล่านี้เองเป็นเหตุให้กิ่งแก้วต้องอุทานออกมาว่า…
“………ตายแล้ว….จะไปไหนดี !!! ”