ชนะโทรไปบริษัทนี้เป็นหนที่สองในรอบสัปดาห์นี้
บริษัทนี้เป็นลูกค้ารายใหม่ที่เขากำลังติดตามเรื่องอยู่
เสียงของโอเปอร์เรเตอร์ซึ่งรับสายด้วยเสียงที่เป็นมิตร
และอ่อนโยนกล่าวว่า
” สวัสดีคะบริษัทเอบีซีอิงค์ ยินดีต้อนรับคะ “
คุณชนะกล่าวว่า “ผมขอเรียนสายกับคุณสมจิต
ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์หน่อยครับ “
โอเปอร์เรเตอร์กล่าวทักขึ้นมาว่า ” นั่นคุณชนะใช่ไหมคะ”
ชนะรู้สึกแปลกใจความสามารถในการจดจำเสียงของพนักงานคนนี้ได้
เขากล่าวตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประทับใจ
” ใช่แล้วครับขอบคุณที่จำได้ครับ ” เธอกล่าวว่า
” ยินดีคะ ดิฉันจะโอนสายให้นะคะ “
หลังจากที่ชนะสนทนาเรื่องงานกับสมจิตจบ ชนะจึงถามสมจิตขึ้นมาว่า ” คุณสมจิตผมขอชมพนักงานรับโทรศัพท์ของคุณหน่อยครับ
เธอเก่งจริงๆเลยที่จำเสียงผมได้เป็นการให้บริการที่เกินความคาดหวังของผมจริงๆเลยครับผมเองไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ และก็ไม่ได้โทรมาบ่อยๆ
ขนาดที่เธอจะจำเสียงผมได้ด้วย เธอมีเคล็ดลับอะไรครับ “
สมจิตพูดว่า ” เธอชื่อเรณูคะเธอได้รับคำชมอย่างนี้บ่อยๆ
หากคุณฟังเรื่องของเธอมากขึ้นกว่านี้คุณจะยิ่งประทับใจ
สนใจฟังไหมละคะ” ชนะรีบกล่าวตอบด้วยความกระตือรือร้นว่า
” สนใจสิครับ ช่วยกรุณาเล่าให้ฟังหน่อยครับ “
สมจิตเริ่มต้นเล่าอย่างอารมณ์ดี” คุณเรณูเธอตาบอดคะ
เธอจึงต้องอาศัยการฟังเพียงอย่างเดียวทำให้เธอสามารถจดจำชื่อคนได้ดี
เธออาศัยอยู่ที่สมุทรปราการและมาทำงานที่ออฟฟิศนี่
ซึ่งอยู่แถวดอนเมืองซึ่งถือว่าไกลมากโดยเฉพาะสำหรับเธอ
ซึ่งต้องเดินทางโดยรถเมล์เหมือนคนปกติ
ส่วนใหญ่ก็ จะมีคนตาดีอย่างพวกเราที่คอยช่วยดูสายรถเมล์
และส่งเธอขึ้นรถให้เธอไม่เคยมาสายเลย
และก็ไม่เคยเรียกร้องขอรถรับส่งแต่อย่างใด
ไม่เหมือนพนักงานปกติของพวกเราหลายคน
ตอนที่เราย้ายสำนักงานจากในเมืองต้องขอรถรับส่งให้ด้วย
แถมหลายๆคนที่มีรถส่วนตัวก็ยังมาทำงานสาย
พร้อมกับเหตุผลสารพัด คิดแล้วอายแทนคนตาดีเลยคะ “
เธอหยุดเว้นจังหวะสักครู่ก่อนจะเล่าต่อว่า
” คุณเรณูมีทัศนคติที่ดีมากๆกับงานของเธอเธอเคยเล่าให้ดิฉันฟังว่าสำหรับเธอแล้วการรับโทรศัพท์ไม่ใช่งานแต่มันคือชีวิตเงินเดือนที่บริษัทให้กับเธอทำให้เธอสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างดีนอกจากนี้เธอยังมีเงินเหลือกว่าครึ่งสะสมไว้อีกที่จริงแล้วเพื่อนคนตาดีหลายคนเคยหยิบยืมจากเธอในยามฉุกเฉินคุณเรณูกล่าวว่าบริษัทเรา เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และสังคมมอบโอกาสให้เธอได้พิสูจน์ว่าเธอมีคุณค่าและสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคมได้ เธอบอกว่าเธอพยายามทำงานของเธออย่างสุดความสามารถซึ่งรวมทั้งพยายามจำชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาด้วยเธอบอกว่าทุกคืนก่อนเข้านอนเธออยากรีบนอนไวๆเพื่อจะได้รีบตื่นขึ้นมาทำงาน เธออดใจรอจะมาทำงานไม่ไหวแหมอย่าหาว่าดิฉันบ่นเลยคะ แต่พวกตาดีๆอย่างพวกเรากลับภาวนาให้ถึงวันหยุดเร็วๆเสียนี่กระไร” สมจิตจบเรื่องด้วยเสียงหัวเราะเบาๆอย่างคนอารมณ์ดี
เมื่อชนะมาเล่าเรื่องนี้ให้กับผมฟังในรถระหว่างที่เราเดินทางไปพบลูกค้าที่นวนครผมจึงเสริมความเห็นของผมไปว่า ” เราน่าจะเล่าเรื่องนี้ให้คนที่มาเข้าอบรมกับเราฟังบ้างนะ บ่อยครั้งเรามักจะได้ยินคนบ่นว่างานหนักหรือไม่ก็ปัญหาเรื่องงานมีมาก สิ่งที่คุณเรณูมีแตกต่างกับเราไม่ใช่ว่าเธอตาบอดหรอกครับ ความจริงพวกเราต่างหากที่บอดเราทัศนคติบอดไงละเราได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมายจากนายจ้างจนเคยชินกระทั่งมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นยิ่งนานวันเรายิ่งเรียกร้องมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้ในขณะที่คุณเรณูกลับมองแตกต่างกับเราอย่างสิ้นเชิงบางคนเบื่องานจนอยากลาออกไปอยู่กับบ้านเฉยๆมัน ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของ Dr. Denis Waitley
ผู้แต่งหนังสือขายดีชื่อ ‘The psychology of winning’
เขายกรายงานวิจัยในอเมริกาที่บอกว่าผู้เกษียณอายุออกจากงานไป
โดยไม่มีภารกิจอะไรทำมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้นพวกเขาตายเพราะความรู้สึกด้อยคุณค่าหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเฉาตายนั่นเองครับ
เราบางคนมีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรัก
ในขณะที่คนจำนวนมากไม่มีโอกาสอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามเรามีสิทธิที่จะเปลี่ยนมุมมองโดยหันมารัก
และหลงใหลในสิ่งที่เราทำได้ โดยไม่ต้องรอให้ตาบอดแบบคุณเรณูก็ได้ “