“อะไร อะไร มันก็ไม่แน่อย่าดีใจ เสียใจ”
มีนิทานของชาวจีนเรื่องหนึ่งเล่าว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในชนบทกับท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่ง และมีม้าแสนรู้อีกตัวหนึ่งทั้งสองสามีภรรยารักม้าตัวนี้มาก วันหนึ่งม้าหนีไป ทั้งสามีภรรยาเสียใจมาก
ท่านผู้เฒ่าก็ได้แต่ปลอบใจว่า อย่าเสียใจไปเลยเพราะชีวิตนี้ไม่แน่ เวลาผ่านไปหลายวัน ม้าตัวนั้นก็กลับมา ที่บ้าน แต่คราวนี้ได้พาแฟนมาด้วยเป็นม้าป่าอีกตัวหนึ่งสามีภรรยาต่างก็ดีใจมาก แต่ท่านผู้เฒ่าก็บอกว่า อย่าเพิ่งดีใจ เพราะชีวิตนี้ไม่แน่
ต่อมาวันหนึ่ง สามีพาม้าตัวใหม่มาหัดขี่เล่นไปรอบๆ บ้าน ม้ายังไม่เชื่องดี จึงยังไม่สามารถบังคับได้ดังใจ ม้าพาวิ่งลอดเข้าไปใต้ถุนบ้านอย่างแรง ตกมาพิการแขนขาหัก ทั้งสามีภรรยาต่างก็เสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก ท่านผู้เฒ่าก็ปลอบว่า อย่าเสียใจเลยเพราะชีวิตนี้ไม่แน่
ต่อมาเกิดสงครามขึ้น ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านถูกทางราชการเกณฑ์ไปเป็นทหารทุกคน สามีได้รับการยกเว้น เนื่องจากเป็นคนพิการ การสู้รบเป็นไปอย่างรุนแรงทำให้ทหารตายเกือบหมดสามีภรรยาก็ดีใจที่ตัวเองไม่ต้องไปเสียชีวิตในการทำสงครามครั้งนี้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
บางครั้งเราอาจเกิดความรู้สึกว่าเราได้สูญเสียมากมาย เราเสียเปรียบ น่าเสียใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราอาจจะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเสียใจอะไรมาก อาจจะกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ บางสิ่งบางอย่างที่เรารู้สึกว่าดี
แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วสิ่งเหล่านี้ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีก็ได้
มันก็กลับไป กลับมาอยู่อย่างนั้นเป็นอนิจจัง ไม่แน่นอนจริงๆ
เราจึงควรทำความเข้าใจกับเรื่องของ ความไม่แน่นอน และ รู้จักปล่อยวาง