วิธีชนะบาป
“เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม” (ลูกา 4:13)
ทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ต้องยอมแพ้พระเยซูเจ้าและจำต้องตีจากพระองค์ไป
มีหลายคนถามว่า จะอดอาหารกันไปทำไม? และจะได้ประโยชน์อะไรถ้าต้องอดอาหารและไม่กินข้าว? ซ้ำร้ายเมื่อใดหรือวันใดที่ต้องอดอาหาร วันนั้นจะรู้สึกหิวเป็นพิเศษ อีกทั้งมีพลังลึกลับบางอย่างที่ผลักดัน (จากภายใน) ให้รู้สึกอยากกินโน่น กินนี่อยู่ตลอดเวลา จนบางครั้งหรือบ่อยครั้งทนไม่ได้ ต้องกินตามความอยาก
บิล ไบรท์ เขียนไว้ว่า “การอดอาหารเป็นวิธีการพื้นฐาน ของการบูรณะฟื้นฟู โดยการถ่อมจิตวิญญาณของเรา การอดอาหารช่วยปลดปล่อยให้พระจิตทำงานพิเศษของพระองค์ในตัวเราเพื่อฟื้นฟูเรา”
และอีกข้อความหนึ่ง
“การอดอาหารบั่นทอนกำลังของตนเอง (กำลังกาย) เพื่อพระจิตจะสามารถทำงานที่เข้มข้นมากขึ้นภายในตัวเรา”
การอดอาหาร หรือการจำศีล ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่เป็นกิจกรรมที่ทรงพลัง ในการช่วยฟื้นฟูจิตวิญญาณให้เข้มแข็ง ในขณะที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ จิตวิญญาณก็เข้มแข็งขึ้น
ในวิถีทางแห่งสุขภาพในปัจจุบัน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีขึ้นกระบวนการอดอาหาร ถูกผนวกเข้าไปเป็นวิธีการหนึ่งในการเสริมสร้างสุขภาพ และพลานามัย โดยเรียกด้วยการใช้ภาษา ที่หลายคนรู้จัก ว่ากระบวนการล้างพิษ หรือ การทำดีท๊อกซ์ (Detoxification) การทำดีท๊อกซ์ ที่ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นด้วย
- การอดอาหาร จากนั้น ตามด้วย
- กระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกายโดยใช้สารอาหารตามธรรมชาติต่างๆ ประเภทน้ำ
กระบวนการ 2 อย่างนี้ต้องควบคู่กันไป ขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้ การอดอาหาร ต้องกระทำอย่างน้อย 3 ถึง 7 วัน เพื่อให้ระบบภายในทำงานด้วยตัวของมันเองในการกำจัดสารพิษที่สะสมอยู่ภายใน หลายคนบอกว่าจะล้างพิษแต่ทำแค่ กระบวนการที่ 2 คือ กินสารขับพิษโดยแต่ไม่ยอมทำ กระบวนการที่ 1 คือ อดอาหาร การล้างพิษ หรือการทำดีท๊อกซ์ประเภทนี้จึงไม่เกิดผลเพราะไม่ครบกระบวนการ
การอดอาหารเป็นกิจกรรมที่ทำกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ ดู เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 9 ข้อ 9 เมื่อข้าพเจ้า (โมเสส) ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับศิลาจารึก คือแผ่นจารึกพันธสัญญาซึ่งพระยาห์เวห์ทรงกระทำกับพวกท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขา 40 วัน 40 คืน ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ (อดอาหาร)
อีกตอนหนึ่งของ เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 9 ข้อ 18 แล้วข้าพเจ้า(โมเสส) ก็หมอบกราบลง เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์อย่างครั้งก่อน ไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ (อดอาหาร) 40 วัน 40 คืน เพราะบาปทั้งสิ้นที่ท่านทั้งหลายทำ คือ ได้ทำชั่ว ในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ทำให้พระองค์ทรงพระพิโรธ”
โมเสส อดอาหารก่อนจะได้พบกับพระเจ้า และเพื่อจะให้ตัวเองบริสุทธิ์ผุดผ่องก่อนพบพระเจ้า โมเสสจึงชำระชีวิตของตนด้วยการอดอาหาร
ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเก่า การอดอาหารเป็นกิจกรรมที่ทำกัน อยู่เสมอๆ โดยบรรดาบุคคลสำคัญๆในพระคัมภีร์ เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญๆ หรือ ก่อนจะมีเหตุการณ์สำคัญๆ
นักบุญเปาโลเองทำการอดอาหารบ่อยๆในช่วงชีวิตของการเป็นธรรมทูต และเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้า ดู โครินธ์ 9:27 แต่ข้าพเจ้าเคร่งครัดต่อร่างกาย(อดอาหาร) เพื่อบังคับให้ร่างกายอยู่ใต้อำนาจของข้าพเจ้า ด้วยเกรงว่าหลังจากที่ได้เทศน์สอนคนอื่นแล้วข้าพเจ้าอาจถูกตัดสิทธิ์เพราะผิดกติกา”
การเคร่งครัดต่อร่างกายของเปาโล คือการอดอาหาร แสดงว่าการอดอาหารมีพลังสามารถปราบราคตัณหาและบาปในตัวเรา
และพระเยซูเจ้าได้ตรัสสอนว่า “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา” (มัทธิว 16:24)
การเลิกคิดถึงตนเองคือการเอาชนะและปฏิเสธตัวเอง ปฏิเสธความอยากของตัวเองในทุกๆด้าน
ความอยากของมนุษย์เราโดยทั่วไปมักจะสวนทางกับความต้องการของพระเป็นเจ้า(น้ำพระทัย)อยู่เสมอ และความอยากพื้นฐานของมนุษย์ ก็คือ การกิน หรือ การรับประทาน ซึ่งถือเป็นความต้องการ หรือ ความอยากในระดับต่ำสุดของชีวิต ทั้งของมนุษย์และของสัตว์ นอกนั้นเวลากินยังต้องเลือกอาหารการกินอย่างเป็นพิเศษ
ดังนั้นการสามารถควบคุมความอยากเรื่องอาหารได้ (รู้จักอดอาหาร) เราก็จะสามารถควบคุมความอยากอื่นๆได้ง่ายขึ้น
นีล แอนเดอร์สัน กล่าวไว้ว่า “การกินเป็นปู่(รากเหง้า)ของความอยากทั้งปวง การอดหาร เป็นการทุ่มเทอย่างหนึ่งที่นำมาซึ่งการบังคับตนเอง และทำให้สามารถเอาชนะการประจญทุกอย่างที่ก่อตัวขึ้นมา” (ความอยากด้านกามารมณ์ อยากเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักดิ์ ฯลฯ )
ดังนั้นหลังอดอาหาร 40 วัน พระเยซูเจ้าจึง
- ทรงชนะความอยากอำนาจ และความอยากความมั่งมีศรีสุขของโลก (ดู ลูกา 4:6)
- ทรงชนะการชอบแสดงอิทธิฤทธิ์ ความชอบเป็นใหญ่เป็นโต และการชอบแสดงอำนาจบาดใหญ่ (ดู ลูกา 4:9-11)
ดังนั้นถ้าจะรู้จักอดอาหารบ้าง บางมื้อ บางโอกาส ก็คงไม่ถึงกับจะต้องตาย อย่าทำตัวเป็นทาสของอาหารวันละ 3 มื้อ 5 มื้อ รู้จักสร้างความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณและการเอาชนะบาป ด้วยการรู้จักอดอาหารบ้างทุกๆวันไม่เฉพาะในช่วงเทศกาลมหาพรตเท่านั้นแต่ให้ทำบ่อยๆ และถ้าเรารู้จักบังคับความอยากของลิ้นได้เราก็จะค่อยๆรู้จักบังคับความอยากในด้านอื่นๆได้เช่นกัน