หัดรู้จักสำรวจตัวเอง
เหตุการณ์ 2เหตุการณ์ที่ถูกกล่าวถึงไว้ใน พระวรสารนักบุญลูกาวันนี้ ซึ่งได้แก่ ชาวกาลิลีถูกปีลาตสั่งฆ่าขณะกำลังถวายเครื่องบูชาในพระวิหาร และ คน 18 คน ที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเป็นเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องที่เล็กๆ ที่อยู่ในความดูแลปกครองของชาวโรมัน คือ ประเทศอิสราแอล ดังนั้นจึงไม่มีการกล่าวถึง หรือ บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ใหญ่
ชาวยิวในสมัยโบราณจนถึงยุคสมัยของพระเยซูเจ้า มีความเชื่อที่ฝังแน่นในหัวอยู่ตลอดเวลาว่าใครก็ตามที่ทำความชั่ว ทำบาป หรือเป็นคนบาป ก็จะต้องเผชิญกับเหตุเลวร้าย หรือภัยพิบัติต่างๆ แม้ขณะยังมีชิวิตอยู่ ดังมีปรากฏให้ได้อ่านกันในหนังสือ โยบ ที่ภัยพิบัติที่โยบต้องประสพนั้นพวกเขาตีความว่า เกิดจากการที่โยบ ทำความชั่ว ความผิด จึงต้องได้รับผลดังกล่าว อย่างที่คนปัจจุบัน มักจะพูดกันอยู่เสมอๆ ว่า “กรรมติดจรวด” ผู้นำข่าวมาเล่าให้พระเยซูเจ้าฟังมีเจตนาอยากให้พระองค์เห็นด้วยกับพวกเขาในเรื่องของกรรมติดจรวด เพราะคนตายทั้ง 2 กลุ่มนั้นเป็นที่รับรู้ว่าเป็นคนชั่วคนบาป
ผู้นำข่าวมาบอกยังมีเจตนาซ่อนเร้นอีกประการหนึ่งคือ พูดล่อชักชวน ให้พระเยซูเจ้า เห็นด้วยกับตนในเรื่องของพฤติกรรมของชาวโรมัน ที่ลบหลู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว โดยการส่งทหารเข้าไปฆ่าบุคคลเหล่านั้น ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพระเยซูเจ้าจะได้ร่วมกล่าวประณามการกระทำของพวกทหารโรมันเหล่านั้น
แต่พระเยซูเจ้าหยั่งรู้เจตนาของพวกเขาจึง เบี่ยงเบนประเด็นของทั้ง 2 เรื่องไปพูดอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญกว่า และครอบคลุมถึงทุกคน คือเรื่องของการ “กลับใจเปลี่ยนชีวิต” จากความชั่วและความผิด
ความจริงสำหรับทุกคนคือ “ทุกคนเป็นคนบาป ทุกคนต้องกลับใจ เปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต”
พระเป็นเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้เป็นทุกข์ถึงความผิดบาป และกลับใจ เป็นต้นใครๆ ก็ตามที่ชอบพูดถึงเรื่องของการ “กลับใจ” เป็นพิเศษในช่วงเวลามหาพรตนี้
แต่การเป็นทุกข์กลับใจได้ ผู้เป็นทุกข์กลับใจนั้นจะต้อง “รู้จักตัวตนของตนเอง” นอกจากจะรู้จักตัวตนของตนเองแล้ว ยังต้องรู้จัก “ยอมรับตัวตนของตนเอง” อีกด้วย
คนป่วยต้องรู้ว่าตัวเองป่วยและต้องยอมรับว่าตัวเองป่วยจากนั้นก็จะต้องยอมรับการรักษา
สังคมปัจจุบัน หรือ จะพูดให้ตรงกว่านี้ คือ คนยุคปัจจุบัน ทั้งในพระศาสนจักร หรือ นอกสังคมพระศาสนจักร ไม่ค่อยรู้ว่า ตัวเองกำลังป่วยทางจิตวิญญาณในหลายๆเรื่อง เหตุผล เพราะไม่ค่อยได้ “ตรวจตรา สำรวจตนเอง” หรือ “ตรวจตราสำรวจ” แต่ก็มักจะไป “ตรวจตราสำรวจคนอื่น”
นานๆที่จะเจอ ข้อความที่ Post ลง Facebook ที่มีประโยชน์บ้าง เพราะส่วนใหญ่จะลงโฆษณาแต่ “เรื่องและรูปของตัวเอง” คล้ายๆกับเป็นโรคที่นักจิตวิทยาวิเคราะห์การใช้ Facebook ในปัจจุบันและติด Facebookว่าเป็นอาการของบุคลิกภาพ Narcissistic หรือบุคลิกภาพ “หลงตัวเอง”
ข้อความดีๆ นี้พูดถึงการรู้จัก “หมั่นมองดูตัวเอง และสำรวจตัวเอง” บางที หรือ บ่อยครั้ง ก็ต้องพึ่งพาเสียงตำหนิติเตียน หรือ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ของคนอื่นอีกด้วย และการมองดูตัวเองและสำรวจตัวเอง จะสามารถช่วยนำชีวิตของเราไปสู่การกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองได้ง่ายขึ้น