“ไม่ลืมกันไม่ลืมตัวไม่ลืมพระ”
“แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมันและมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้นและมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้”
(ยน10:27-28)
ช่วงมหาสงกรานต์ที่ผ่านมา ทุกพื้นที่ในประเทศไทยของเราดูจะมีความสุขใจสนุกสนานกันถ้วนหน้าครับ ทุกที่ทุกจังหวัดพยายามจัดหากิจกรรมและวิธีจัดงานต่างๆเพื่อให้งานวันมหาสงกรานต์นั้นได้มอบความสุขให้กับทุกคน
สำหรับวัดของเรา สัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงเวลาหลังมิสซา8.30 น. เรามีกิจกรรมครอบครัวเชิญชวนบรรดาผู้สูงอายุและลูกหลานมาร่วมใจกันภาวนาและรดน้ำขอพรพระให้กับทุกคนร่วมกัน ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้ามีคุณพ่อสานิจคุณพ่อเจ้าอาวาสเป็นประธานในพิธี มีคุณพ่อสมเกียรติมาร่วมรดน้ำขอพรพระร่วมกันกับเราด้วย ขอบใจลูกหลานเยาวชนของอาสนวิหารของเราที่ได้เตรียมงานเพื่อคุณลุงคุณป้าปู่ย่าตายายของเราครับ ถือโอกาสเรียนเชิญเราทุกคนมาร่วมกันรดน้ำขอพรกันในสงกรานต์ปีหน้ากันเลยนะครับ
“แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมันและมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้นและมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้”
(ยน10:27-28)
สำหรับพ่อ ขณะที่สงกรานต์บ้านอื่นๆเขาเริ่มและจบกันแล้ว พ่อนัดกับคุณพ่อพี่ชายและหลานๆว่าจะไปรดน้ำขอพรพระสำหรับคุณพ่อคุณแม่ของพ่อที่บ้าน เราไปรดน้ำกันในวันที่16 เมษายนกัน ที่จริงไม่ได้มีอะไรครับเพียงแต่สะดวกสมาชิกกัน ที่จริงเรามอบความรักให้กับคุณพ่อคุณแม่หรือญาติพี่น้องของเราได้ทุกวันนั่นแหละครับ
หลังจากรดน้ำขอพรพระโอกาสวันสงกรานต์กันแล้ว พ่อขับรถเดินทางไปส่งหลานสาวที่บ้านพี่ชายที่ไปหางานทำอยู่ที่ตัวเมืองในจังหวัดระยอง มันน่าแปลกแต่จริงครับไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน “พระเป็นเจ้าก็จะตามไปดูแลไม่เคยทิ้งกันเลย” แม้แต่บ้านพ่อแม่ที่จังหวัดสมุทรปราการเมื่อพ่อยังเด็กเราก็นั่งรถกันไปเข้าวัดที่วัดอัครเทวดาราฟาแอลปากน้ำ ต่อมาพระคงจะเห็นว่าพ่อและแม่อายุมากแล้วก็ประทานให้วัดพระบิดาหมู่บ้านทิพวัล มาอยู่ใกล้มากเข้าไปอีก ขอบคุณพระองค์ครับ
“แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมันและมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้นและมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้”
(ยน10:27-28)
กลับมาที่บ้านพี่ชายที่จังหวัดระยอง เมื่อพี่ชายและพี่สะใภ้ของพ่อไปเข้าวัดในตัวเมืองวัดนักบุญเปาโลระยอง หลังมิสซาทั้งสองคนก็ถือโอกาสไปสวัสดีทักทายกับคุณพ่อปลัดที่อาทิตย์นั้นเป็นประธานมิสซา ไม่รู้ว่าใบหน้าของพ่อกับพี่ชายจะเหมือนกันมากหรือเปล่า ยังไม่ทันได้แนะนำชื่อกันทันทีที่พบหน้าคุณพ่อปลัดท่านนี้คุณพ่อศักดาเกียรติเกษม พระสงฆ์ของสังฆมณฑลจันทบุรี(เพื่อนรุ่นเดียวกันเมื่ออยู่บ้านเณรแสงธรรม) ถามขึ้นทันทีว่า“นี่เป็นพี่หรือน้องของพ่อพรชัย!!!” ดูเหมือนคำถามนี้จะได้ใจพี่ๆของพ่อทั้งสองแล้วหละและนำความอบอุ่นที่พระไม่ทิ้งเราเสมอมาครับ(จากมิตรไมตรีและการต้อนรับของคุณพ่อท่านนี้)
เมื่อได้ยินพี่ชายพี่สะใภ้เล่าให้ฟัง ในใจรู้สึกอบอุ่น มิตรภาพระหว่างเพื่อนมันช่างอบอุ่นใจ “เราไม่ลืมกัน” อีกทั้งประทับใจความเป็นพระสงฆ์ของเพื่อนที่มีต่อสัตบุรุษต่อครอบครัวของเรา“เขาไม่ลืมตัว”มันได้ใจเราและพี่ๆของเราไปเต็มๆ เหตุการณ์นี้ทำให้มีกำลังใจที่เราจะ“ไม่ลืมพระ” และทุกครั้งเราพบว่า“พระไม่ทิ้งเรา” พ่อเชื่อเช่นนั้น“พระไม่เคยและจะไม่ยอมทิ้งเรา” พี่น้องเชื่อเช่นนั้นเหมือนกันหรือไม่??