เขาพระวิหาร: ความขัดแย้งที่พระเยซูสอนศิษย์ของพระองค์ให้รักกัน
บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ และพระเจ้าทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในพระองค์ด้วย(ยน13:31)
ข่าวใหญ่เรื่อง“การขึ้นศาลโลกเพื่อหาบทสรุปในความขัดแย้งเรื่องสิทธิ์อันชอบธรรมในพื้นที่เขาพระวิหารและพื้นที่บริเวณใกล้เคียง” คงเป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องชาวไทย ให้เราได้ติดตามและรับทราบความคืบหน้ากันพอสมควร เราไม่รู้ว่าบทสรุปจะลงเอยเป็นเช่นไรบ้าง แต่ดูเหมือนสำนักข่าวหลายสำนักจะสรุปออกมาใกล้เคียงกันว่า ไม่ว่าบทสรุปจะออกมาอย่างไร… ก็ดูเหมือนจะเป็นผลดีด้านบวกต่อประเทศไทยของเราเสียมากกว่า
บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ และพระเจ้าทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในพระองค์ด้วย
(ยน13:31)
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเป็นระยะๆออกมาถึงเรื่องจะมีกลุ่มพี่น้องชาวไทยบางกลุ่มจะร่วมมือกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงออกตอบโต้กับทางประเทศเพื่อนบ้างอย่างกัมพูชาไปบ้าง ถึงขั้นที่ว่าจะรวมกลุ่มกันเพื่อไปประท้วงไปต่อต้านกันเองก็มีอยู่เหมือนกัน ขอบคุณพระเป็นเจ้าที่ครั้งนี้รัฐบาลไม่โอนอ่อนยอมต่อเสียงและแรงกดดันให้ใช้ความรุนแรง ขอบคุณพระที่ผู้นำของประเทศไทยเราในครั้งนี้ ได้ตัดสินใจใช้เครื่องมือในเรื่องทางการศาลการเจรจาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสันติสุขกับทุกฝ่ายให้มากที่สุด
“เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย… ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรัก กันอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่า…ท่านเป็นศิษย์ของเรา”
(ยน13:34-35)
จะอย่างไรก็ตามพระศาสนจักรยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อ“ชีวิตที่ติดตามความรักของพระคริสตเจ้าความรักของพระบิดาที่พระองค์ทรงนำมาให้กับเรา” เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยเราให้เราสามารถดำเนินชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ให้เราแต่ละคนสามารถผ่านวิกฤตการณ์ผ่านความขัดแย้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ผ่านไปได้ด้วยการมองดูอีกฝ่ายหนึ่งด้วยดวงตาเปี่ยมรักและมีความรักของพระคริสตเจ้าความรักที่จะทะนุถนอมที่จะดูแลอดทนและให้อภัยเป็นต้นแบบในการใช้ชีวิตอยู่ในโลก “ท่านอยู่ในโลก แต่ไม่ได้เป็นของของโลก”
“เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย… ให้ท่านรักกันเรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่า…ท่านเป็นศิษย์ของเรา”
(ยน13:34-35)
ผู้คนในโลกอาจทำให้เราสิ้นหวัง ผู้คนในชาติอาจทำให้เราไม่รู้จะหวังต่อไปได้อย่างไร ผู้คนในครอบครัวหรือเพื่อนพี่น้องของเราอาจจะมอบจิตใจที่ห่อเหี่ยวท้อแท้ให้กับเรา จงอย่าหมดกำลังใจครับ จงมีความรักเมตตาต่อกันอดทนต่อกันไม่ท้อแท้ในข้อบกพร่องที่มีต่อกัน แต่เริ่มต้นอยู่เสมอ…ที่จะวางใจให้ความรักของพระได้ถูกเพาะ, ปลูกและแบ่งบานในชีวิตจิตใจของกันและกันต่อไป ให้อภัยให้โอกาสกันอยู่เสมอ…. เพื่อ“ทุกคนจะรู้ละครับว่า… เราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าเป็นลูกของพระบิดาผู้ทรงเปี่ยมด้วยรักเมตตาเสมอ”