สวัสดีครับ สัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาส เซย์ฮัลโล ทักทายปราศรัยกับพี่น้องผ่านทางสารอาสนวิหารอัสสัมชัญ ก่อนอื่นหมดขอเป็นกำลังใจให้“ปลัดแก่” คพ. วรยุทธกิจบำรุงที่ได้รับหน้าที่ใหม่“งานประกาศพระวาจา” (ad gentes) เป็นเจ้าอาวาสวัดนักบุญอันเดร บางภาษีหลังจากอยู่กับเรามา27 ปีเรียกว่าใช้เจ้าวัดเปลืองที่สุดถึง8 ท่าน
ผมจะไม่แนะนำตนเองว่าเป็นใคร เพราะอยากจะทิ้งให้เป็นปริศนาคาใจกันว่า“ใคร(วะ)?” จะดีกว่า… สิ่งที่ผมอยาก“สวัสดี” ทุกๆสัปดาห์(ถ้าไม่ติดขัดจริงๆ) ก็คงเป็นเรื่องสัพเพเหระที่อยากจะพูดอยากจะทักทายกันกับพี่น้องทุกๆท่านไม่จำกัดว่าเรื่องอะไร…
สำหรับสัปดาห์นี้ขอพบกันในคำว่า“ฝึกฝน” เป็นคำไทยแท้ มาจากกริยา2 คำ คือ ฝึก+ฝนเหตุที่อยากจะพูดเรื่องนี้เพราะเมื่อเช้านี้(30 เมษายน2013) ไปถวายมิสซาณที่แห่งหนึ่งและได้แบ่งปันเรื่องของพระเยซูเจ้าขณะที่ทรงประจักษ์แก่บรรดาศิษย์ก่อนจะทรงเสด็จขึ้นสวรรค์พระองค์ทรงเตือนสอนให้ศิษย์ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกลัวเพราะพระองค์จะทรงประทานพระพรความช่วยเหลือพวกเขาอย่างพอเพียงสำหรับการดำเนินชีวิตยืนยันถึงพระองค์
แต่พระพรต่างๆนั้นเราต้องพัฒนาและดูแลให้ดียิ่งทียิ่งเข้มแข็งมากขึ้นด้วยตัวของเราเองจึงอยากจะบอกว่าเมื่อรับศีลบาปเราทุกคนได้รับพระพรแห่งความรักความเชื่อแห่งการเป็นบุตรของพระเป็นเจ้าอย่างสมบูรณ์มีหน้าที่ติดตัวมาทันที3 ประการคือหน้าที่ของการเป็นสงฆ์คือการที่จะต้องถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยคำภาวนาและพิธีกรรมต่างๆ หน้าที่ของการเป็นประกาศกคือต้องเป็นพยานยืนยันถึงความรักและพระเมตตาของพระองค์ด้วยการเจริญชีวิตของเราและหน้าที่ของการเป็นกษัตริย์คือต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนพี่น้องด้วยการรับใช้ดูแลซึ่งกันและกัน
สิ่งที่ตามมาคือเราต้อง “ฝึกฝน” ตนเองให้เข้มแข็งในการทำหน้าที่ทั้ง3 ประการถามว่าจะทำอย่างไร? คำตอบคือ ต้องฝึก คืออดทนรู้จักบังคับตนเองโดยเฉพาะบังคับใจตนเองคือต้องออกแรงด้วยส่วน ต้องฝน คือต้องรู้จักตกแต่งขัดเกลาชีวิตของเราให้แหลมคมหมายถึงสวยงามเกิดคุณค่าสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีกับผู้อื่นได้
วันนี้ผมจึงอยากเสนอคำว่า “ฝึกฝน” ให้เป็นข้อคิดประจำสัปดาห์ ส่วนใครจะกระทำได้มากน้อยอย่างไรขึ้นแก่แต่ละท่านนั่นเอง “สวัสดีครับ”