ก่อนอื่นขอต้อนรับคุณพ่ออนุชาที่เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากโบกมือลาไปร่ำเรียนที่ประเทศฟิลิปปินส์มาเป็นเวลา1 ปีดูถ้าว่าจะถูกชาวตากาล็อกเลี้ยงเป็นอย่างดีเพราะกลับมาคราวนี้อุดมสมบูรณ์ขึ้นเยอะส่วนเรื่องงานไม่ต้องห่วงพ่อชาบอกพร้อมเริ่มงานทันทีเต็มที่ด้วยสมกับเป็นคนหนุ่มไฟแรงท่าทางสื่อมวลชนคาทอลิกของเราจะต้องมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นเป็นแน่แท้ส่วนงานในรอบรั้วซอย40 คาดว่าเริ่มเต็มตัวก็เดือนหน้าเลยครับ
อันนี้ก็ต้องแสดงความยินดีเช่นเดียวกันเพราะวันอาทิตย์นี้สังฆมณฑลกรุงเทพฯ ของเรามีสงฆ์บวชใหม่2 ท่านคือคุณพ่อธนายุทธ ผลาผลหรือพ่อตั๋งและคุณพ่อวิทยา เลิศทนงศักดิ์หรือพ่อช้วงเมื่อครั้งที่คุณพ่อทั้งสองยังเป็นสังฆานุกรก็เคยมาช่วยพิธีกรรมในวัดของเราอย่างงานสุดท้ายที่มาช่วยก็เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเป็นพิธีฉลองการเข้ารับหน้าที่ศาสนบริการของนักบุญเปโตรของพระสังฆราชแห่งกรุงโรม หรือฉลองที่เรามีโป๊ปองค์ใหม่จำได้ว่าวันนั้นมีพี่น้องคนหนึ่งมาถามด้วยความสงสัยว่า…พ่อๆทำไมสังฆานุกรรอบนี้หน้าละอ่อนจังไปทำเบบี้เฟสหน้า(Baby face) มาแหงๆหน้าใส(เสียงสูง)ใส…ก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไงดีเหมือนกัน แต่เอาเถอะครับรับรองได้ว่าพอบวชได้ไม่นานเดี๋ยวหน้าที่ละอ่อนๆก็จะกลายเป็นหน้าเหี่ยวๆ แก่ๆ อย่างพวกผมนี้แหละครับฟันธง!!!
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพ่อขุนปลัดหนุ่มของเรานำบรรดาเด็กเยาวชนเด็กช่วยมิสซาและผู้อ่านของอาสนวิหารอัสสัมชัญรวม 48 ชีวิตไปร่วมกิจกรรมสัมมนาเตรียมความพร้อมซักซ้อมความเข้าใจในการทำหน้าที่ของตนที่หาดหฤทัยหัวหินมีทั้งภาวนา เล่นเกมสามัคคี กินอิ่มนอนหลับ กลับมาพร้อมเป็นเยาวชนที่ดีของวัดต่อไป ส่วนอีกค่ายบรรดานักขับร้องไตรอัสสัมชัญ ก็จัดค่ายวอร์มเสียง เตรียมรับงานเปิดปีการศึกษาใหม่เหมือนกัน ผิดกันที่ว่าค่ายนี้ดูจะหนักหนาสาหัสกว่า เพราะกว่าจะหาสถานที่จัดค่ายลงตัวได้ เล่นเอาเหงื่อตก มาได้เฮือกสุดท้าย ได้ที่บ้านสวนยอแซฟ
สภาพอากาศบ้านเราช่วงนี้ร้อนมากถึงร้อนที่สุดบางคนบอกว่าไม่ใช่ร้อนธรรมดาแต่เป็นร้อนตับแตกส่วนตับมันจะแตกอย่างไงอันนี้ไม่ทราบครับทราบแต่ว่าจะร้อนกายอย่างไงก็ทำใจให้เย็นๆเข้าไว้อย่าให้ใจร้อนจนครองสติไม่อยู่แตกออกมาก่อนตับเป็นใช้ได้ครับ…สวัสดี…