เป็นพระพร…ที่พระต่อชีวิตให้พ่อแม่
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฟังเสียงร้องของเอลียาห์ เด็กก็มีลมหายใจอีกครั้งหนึ่งท่านนำเด็กน้อยไปมอบให้มารดา” (เทียบ1พกษ17:22-23)
สามสี่วันก่อนนี้ขับรถกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้าน ระหว่างทางแวะหาซื้ออาหารง่ายๆเพื่อจะได้ไปกินข้าวที่บ้านและจะได้นั่งคุยกับพ่อและแม่ไปพลางกินข้าวไปพลาง เดินหาไปมา…ที่สุดก็ไปได้น้ำตกเนื้อหนึ่งถุงพร้อมกับข้าวเหนียวหนึ่งห่อ แค่นี้ก็ได้หนึ่งอิ่มแล้ว อิ่มท้องตัวเองพร้อมกับอิ่มใจที่ได้อยู่กับพ่อและแม่…
คิดถึงเมื่อก่อนจะกลับบ้านทีหนึ่ง ก็มักจะโทรกลับมาบอกแม่ก่อน แล้วก็จะได้ทานอาหารเมนูเด็ดดวงทะลวงใจที่แม่จะเตรียมไว้ให้เป็นอาหารที่เปี่ยมไปด้วยรสชาติถูกปากและความรักที่มัดผูกใจ ณวันนี้แม้คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่แต่ด้วยวัยที่สูงมากของท่านพ่อก็ไม่ได้ลิ้มรสจากมือของแม่มา10 กว่าปีแล้ว… คิดถึงครับ… คิดถึง.
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฟังเสียงร้องของเอลียาห์ เด็กก็มีลมหายใจอีกครั้งหนึ่ง
ท่านนำเด็กน้อยไปมอบให้มารดา” (เทียบ1พกษ17:22-23)
กลับบ้านคราวนี้รู้สึกอยากกอดพ่อกอดแม่จริงๆเลย หลังจากกินข้าวเสร็จสวดและอวยพรให้พ่อกับแม่… ก่อนลากลับ เดินเข้าไปกอดแม่ และตามด้วยกอดลาพ่อ ตัวของพ่อเองได้พบกับภาพที่สะเทือนใจตัวเองมากๆพ่อรู้สึกอยากกอดพ่อกับกอดแม่นานๆและแน่นๆ อีกทั้งพบว่าพ่อกับแม่ร้องไห้… มันสะเทือนใจแต่ก็ปนไปด้วยอบอุ่นใจเอามากๆคุ้ม…คุ้มค่าที่ขับรถกลับมากินข้าวและนั่งอยู่กับท่านทั้งสองคุ้มค่ามากๆ
“เมื่อพระองค์ทรงเห็นนางก็ทรงสงสารและตรัสกับนางว่า… อย่าร้องไห้ไปเลย…” (ลก7:13)
แต่ก่อนตอนเป็นเด็กเล็ก นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล มักจะเดินมาที่ระเบียงของโรงพยาบาล นับรถยนต์ทีละคันทีละคันเพื่อรอพ่อหรือแม่ที่มาเยี่ยม… มาวันนี้ทำให้เข้าใจจิตใจพ่อและแม่เมื่อท่านทั้งสองได้พบลูกชายที่วันนี้กลับกัน… มาเยี่ยมท่านและเป็นพลังให้กับหัวใจที่เริ่มอ่อนแรงของท่านอ่อนแรงลงทุกวันทุกวันให้กระชุ่มกระชวยมีชีวิตมีเรี่ยวแรงที่จะกลับมาเต้นอย่างเข้มแข็งอีกครั้งหนึ่ง แม้เราไม่รู้ว่าจะยาวนานไปอีกสักเท่าไร แต่ก็สุขใจทุกครั้งที่ได้ระลึกถึง
เขาจึงพูดกันว่า… “ลูกเป็นพระพร…ที่พระต่อชีวิตให้พ่อแม่”