ชีวิตคริสตชนของเรา… คือ“กระจกสะท้อนภาพ” หรือแค่“กระจกเงา”
“ข้าพเจ้าต่อสู้มาอย่างดีแล้วข้าพเจ้าวิ่งมาถึงเส้นชัยแล้วข้าพเจ้ารักษาความเชื่อไว้แล้ว”(2ทธ4:7)
“ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง” ไก่ฟ้าไก่งามก็งามตามธรรมชาติที่พระสร้างและให้มาส่วนคนคนจะงามงามด้วยน้ำใจและจรรยามารยาท แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยยึดติดกับสิ่งขอบภายนอกความสวยงดงามที่เปลือกนอกที่ต้องการการประดับประดาและความสนใจจากผู้คนรอบข้างให้สะกิดและหันมาสนใจรูปภายนอกของตน
สังเกตดู เวลาเราแต่งกายใส่เสื้อผ้าหน้าผมเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมีจุดชมวิวจุดต่อไปที่หน้ากระจกไม่ว่าจะเป็นกระจกเครื่องแป้งกระจกตู้เสื้อผ้าหรือกระจกห้องน้ำ ต้องปัดต้องแปะอีกสักนิดสองนิดเพื่อให้เกิดความมั่นใจในตัวเองให้ได้ พูดถึง“กระจก” สัปดาห์นี้ขอยกธรรมชาติของกระจกมาแบ่งปันกันและกัน
เรามักจะเรียก“กระจก” ว่า“กระจกเงา” แต่ที่จริงกระจกนั้นมีธรรมชาติไม่ใช่เพียงแค่ “ส่องให้เห็นเพียงแค่เงา” เท่านั้น แต่ธรรมชาติแท้จริงของกระจกก็คือ “ส่องสะท้อนให้เห็นรายละเอียดทั้งหมดในภาพๆนั้น” กระจกจึงไม่เพียงแค่สะท้อนเงามืดๆดำๆตะคลุ่มๆของเรา แต่กระจกส่องสะท้อนภาพของเราทั้งหมด คนอื่นจะคิดว่าเป็นตัวเราหากเห็นเพียงแค่ในกระจกสะท้อนภาพเท่านั้น จุดเพียงจุดเดียวที่ทำให้ต่างกันก็คือกระจกจะสะท้อนภาพออกมาตรงกันข้ามกับตัวจริงของเราเท่านั้นเอง
“ท่านละคิดว่าเราเป็นใคร” (มธ16:15)
สัปดาห์ก่อน ในพระวรสารจะเป็นคำถามของพระเยซูเจ้าที่มีต่ออัครสาวกและแน่นอนว่าถึงเราทุกคนในปัจจุบันด้วยว่า“ท่านละคิดเห็นว่าเราเป็นใคร” สัปดาห์นี้ก็ถามเช่นเดียวกันอีก เพียงแต่จุดที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองสัปดาห์คือ สัปดาห์ก่อนพระองค์เรียกร้องให้เรา“แบกกางเขนของตน และตามเรามา”
สัปดาห์นี้ พระองค์เรียกร้องให้เราดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับพระองค์ นั่นคือดำเนินชีวิตร่วมกับเพื่อนพี่น้องคริสตชนของเรา(เราเรียกรวมกันว่า“พระศาสนจักร”… เป็นพระศาสนจักรที่ไม่ใช่สิ่งของมีรูปร่าง แต่เป็นหมู่พี่น้องที่รวมตัวกันร่วมกันดำเนินชีวิตและมีความเชื่อตามองค์พระคริสตเจ้าพระเจ้าของเรา) และคอยดูแลแบ่งปันรักและรับใช้พี่น้องซึ่งกันและกัน นี่แหละคือจุดมุ่งหมายที่พระองค์ประสงค์จะเห็นจากพระศาสนจักรของพระองค์
“ท่านละคิดว่าเราเป็นใคร” (มธ16:15)
การดำเนินชีวิตที่เปี่ยมด้วยความรักความเมตตาของเราสมาชิกของพระศาสนจักร จึงเป็น“กระจกสะท้อนภาพ” ให้เราได้เห็นได้พบกับพระเมตตาตารักของพระเยซูคริสต์เจ้าและพระเมตตารักของพระบิดา มิใช่เป็นเพียงกระจกเงาให้เห็นเงาลางๆไม่ชัด พี่น้องสมัยนี้เราไม่ดูกันแล้วทีวีที่สัญญาณไม่ชัดภาพเบลอๆเม็ดแตกมากมายเต็มหน้าจอ แต่เดี๋ยวนี้เรานิยมชมภาพในระบบดิจิตอลกันแล้วที่ส่งสัญญาณเฮช.ดี. ที่ให้ภาพคมชัด,สด,ใสและสมจริง
ชีวิตของเรา การดำเนินชีวิตของเรา ก็จำเป็นต้องให้เพื่อนพี่น้องของเราพบเห็นความรักความเมตตาจากชีวิตของเราอย่างชัดเจนไม่มีข้อสงสัยเพื่อทุกคนจะได้เห็น“ภาพของพระเยซูเจ้าภาพของพระบิดา” อย่างชัดเจน จากตัวเราที่เป็น….. “กระจกสะท้อนภาพ”