แม่รักเรา…เรารักแม่… เพราะ…?
“บรรพบุรุษพวกท่านมีใจกล้าหาญ เพราะมั่นใจในพระสัญญาที่พวกท่านเคยเชื่อ” (เทียบปชญ18:6)
“แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังลูกยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล…” บทเพลงนี้ถูกเปิดและขับร้องไปทั่วผืนแผ่นดินไทยอีกวาระหนึ่งในโอกาส“วันแม่” ที่คนไทยทั้งชาติแยกยกย่องและมอบวันนี้เพื่อเทิดพระเกียรติ“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” แม่หลวงผสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า อีกทั้งเทิดทูนเกียรติและความรักอันยิ่งใหญ่ที่แม่ของเราทุกคนได้มอบให้ลูกๆของท่านเสมอมา หัวใจของทั้ง“แม่หลวงของชาวไทยและแม่ของเราแต่ละคน” ช่างกล้าหาญยิ่งใหญ่และน่ายกย่องเสมอ.
ทุกครั้งที่เราบอกว่า“เรารักแม่” เรากำลังสื่อออกมาจากใจว่า“เรารักสิ่งใดในตัวแม่ของเรากันครับ???” เรารักแม่ของเราเพราะ“สิ่งที่แม่ของเรามี” หรือ“สิ่งที่แม่เราให้เรา” หรือเพราะ“ชีวิตของแม่ที่แม่เป็นอย่างที่แม่เป็นอยู่ทุกๆวันในชีวิตของท่าน” เรารักพระเป็นเจ้าเพราะ“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฝ้าพิทักษ์ผู้ที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์เพื่อจะช่วยชีวิตของเขาให้พ้นจากความตาย” (สดด33:18-19) เรารักพระองค์วางใจในพระองค์เพราะพระองค์มั่นคงไม่ทอดทิ้งเราไม่ทรงลืมหรือละเลยพระสัญญาของพระองค์“ขอความรักมั่นคงของพระองค์สถิตอยู่กับข้าพเจ้าทั้งหลายเพราะข้าพเจ้าทั้งหลายมีความหวังในพระองค์” (สดด33:22)
ท่านทั้งหลายจงคาดสะเอวและจุดตะเกียงเตรียมพร้อมไว้…” (ลก12:35)
“เรารักแม่ของเราด้วยแม่มีสิ่งที่เราต้องการหรือ???” เคยมีไหมที่เราถามแม่“แม่ ทำไมบ้านเราไม่มีอย่างนั้นบ้างหนูอยากมีจังเลย” “แม่ทำไมเราต้องทำอย่างนี้หละหนูไม่เห็นบ้านอื่นบ้านเพื่อนต้องทำอะไรต้องลำบากอย่างนี้เลยแม่…” เราเฝ้าเพียรถามว่า“ทำไม.. ทำไม… และทำไม” กับแม่ของเรา เราอาจจะไม่เคยสะกิดใจคิดและถามตัวเราเองว่า“แม่เราอยู่มาได้อย่างไรนี่… แม่เหนื่อยขนาดไหนฉันจะลองทำอย่างแม่ดูบ้างดีไหมจะได้รู้ว่าแม่ฉันเหนื่อยขนาดไหนและแม่อยู่เพื่อฉันมาได้อย่างไรเมื่อแม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้???”
“เรารักแม่ของเราเพียงเพราะแม่ให้เราหรือ???” ครั้งหนึ่งมองดูแม่ลูกคู่หนึ่งแล้วนึกหวนถึงวันเวลาเก่าก่อนเมื่อตอนเด็กก็เคยอ้อนขอแม่เช่นนี้เหมือนกัน “แม่หนูอยากได้อันนี้นะนะนะ” ลูกน้อยร้องขอแม่ด้วยไม่รู้เลยถึงความจริงสองประการ ประการแรก คือของเล่นชิ้นน้อยๆที่เธอเห็นอยู่นั้นราคาช่างตรงกันข้ามกับขนาดขนาดไม่ใหญ่โตอะไรแต่ราคาแพงเอาเรื่องทีเดียว ประการที่สองคือเงินในกระเป๋าของแม่ก็พอจะมีซื้อแต่เมื่อซื้อแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อข้าวสำหรับลูกและทุกคนในบ้าน…เย็นนี้!. สิ่งที่แม่ให้และเราได้มาทำให้หัวใจของเราพองโตแต่หัวใจของแม่อาจต้องกลัดกลุ่มไปอีกเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว
“หรือเรารักแม่ของเราด้วยเหตุผลเดียวคือ… แม่เป็นแม่ของเราด้วยหัวใจของความเป็นแม่อย่างที่แม่เป็นและเป็นเสมอมา” “นางซาราห์ เพราะความเชื่อของนางคนเดียว ตัวนางเองเปรียบเสมือนกับตายแล้ว กลับบังเกิดลูกหลานมากมายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า” (ฮบ11:11-12) เคยรู้สึกเหมือนกัน ถ้าบ้านของเราพ่อแม่มีการศึกษากว่านี้มีทรัพย์สินเงินทองมากกว่านี้ ลูกๆในครอบครัวคงจะสามารถเรียนในเส้นทางที่น่าจะมีช่องทางทำงานมากกว่านี้อดรู้สึกเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่นที่ได้งานดีๆทำไม่ได้เหมือนกัน
“บรรพบุรุษพวกท่านมีใจกล้าหาญ เพราะมั่นใจในพระสัญญาที่พวกท่านเคยเชื่อ” (เทียบปชญ18:6)
แต่เมื่อทบทวนด้วยใจเป็นธรรมให้กับพ่อและแม่ด้วยใจที่รักกตัญญูต่อในหัวใจของแม่ที่แม่เป็น แม่อดทนเสมอตั้งแต่สาวๆแต่งงานกับพ่อและมีลูกเลี้ยงดูลูกๆหลานๆเสมอมาจนถึงวันที่แม่ไม่มีแม้แต่แรงที่จะลุกนั่งยื่นเดินสักเท่าไร แม่ก็ยังห่วงลูกและหลานๆทุกคนเสมอ และที่สำคัญที่สุดแม่ได้หยอดเมล็ดพันธุ์ความเชื่อความรักและวางใจในพระเป็นเจ้าไว้ในหัวใจของลูกๆทุกคน ทุกครั้งที่เราขาดเราทุกข์เรากังวลสับสน เราพึ่งเราหวังและวางทุกอย่างไว้ในพระเป็นเจ้าอย่างที่แม่พร่ำสอนและทำเป็นต้นแบบเสมอมา “จะมีสิ่งใดที่แม่มีแม่ให้เราแล้วยิ่งใหญ่เท่ากับเรื่องนี้อีกเล่า???”
เรารักสิ่งใดในตัวแม่ของเรากัน??? เรารักแม่ของเราเพราะ“สิ่งที่แม่ของเรามี” หรือ“สิ่งที่แม่เราให้เรา” หรือเพราะ“ชีวิตของแม่ที่แม่เป็นอย่างที่แม่เป็นอยู่ทุกๆวันในชีวิตของท่าน”