“รักอภัยให้โอกาส” : วิธีดูแลคนบาปอ่อนแอและพลาดผิด”
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า(1ทธ1:12)
เป็นเรื่องน่าสะเทือนขวัญกับเหตุการณ์“เครื่องบินสายการบินไทยเกิดอุบัติเหตุ” ไปเมื่อสามสี่วันก่อนสำหรับผู้คน เมื่อจะใช้บริการครั้งต่อไป ผู้คนจากหลายภาคส่วนออกมาแสดงความรู้สึกความคิดเห็น บ้างก็ขอบคุณนักบินชื่นชมที่เขาใช้ความรู้ทักษะประสบการณ์และสติอย่างดีเยี่ยมและพยุงรักษาทุกชีวิตให้ปลอดภัยกัน บ้างก็ตำหนิและหาภาคส่วนใดก็ตามที่ควรรับผิดชอบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ตัวผมเองสวดขอบคุณพระ…
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า(1ทธ1:12)
ถามว่าสวดขอบคุณพระด้วยเรื่องใด ไม่มีใครในเครื่องเป็นญาติหรือเพื่อนพิเศษรึ?? ไม่มีครับ…แต่เป็นเพียงความรู้สึกดีๆความรู้สึกโล่งอกโล่งใจ และปรารถนาจะขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้าด้วยความเชื่อประสาพี่น้องคริสตชน ผมมองว่าเป็นพระพรของพระก็ภาวนาขอบพระคุณพระองค์… ก็เพียงเท่านี้ ความผิดพลาดตามประสามนุษย์ย่อมเกิดขึ้นได้ แม้จะบอกว่า“ไม่ควรนะมันเรื่องใหญ่มากเป็นเรื่องความเป็นความตายนะ” แต่ก็ขอยืนยันว่ามนุษย์ก็คือมนุษย์ไม่สมบูรณ์ดังเช่นพระเจ้า เรื่องความผิดพลาดก็ยังคงมีอยู่
ณเวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่หันมาโทษกันว่ากล่าวกัน ลงโทษกัน แต่ที่เสริมสร้างกันมากกว่าคือหันมาพูดคุยกันนำเอาข้อมูลที่ได้ศึกษานำมาปรับปรุงระแวดระวังให้รอบคอบเพื่อความปลอดภัยในครั้งต่อๆไป ครั้งนี้ไม่มีผู้สูญเสียอย่างร้ายแรงทั้งความสูญเสียชีวิตหรือทรัพย์ใดใด ก็นับว่าเราควรพอใจระดับหนึ่งได้เราควรขอบคุณพระแล้วมิใช่หรือครับ
“เราบอกท่านทั้งหลายว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมีความยินดีเช่นเดียวกันเมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ”(ลก15:10)
ผมใช้คำที่ขึ้นหัวเรื่องว่า “ดูแล…คนบาป”มิได้ใช้ว่า“จัดการ…” ก็ด้วยความรู้สึกที่ว่า“คนบาปคนผิด” เขาก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนพกพาความผิดพลาดตามประสามนุษย์ติดตัวมาด้วยกันทุกคน “การจัดการกับคนผิดหรือแม้กระทั้งฆ่าคนที่ทำผิดบาป” ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา คนผิดก็ยังคงรับความเจ็บปวดรับความอาฆาตแค้น และพร้อมจะบ่มเพาะให้ความอ่อนแอความบาปครั้งต่อไปของตนนั้นเบ่งใหญ่และรุนแรงยิ่งขึ้น
“การดูแลคนบาป”จึงเป็นเรื่องของการ“ยืนอยู่ข้างเดียวกับเขายืนเคียงข้างเขา”เป็นมิตรกับผู้ที่ตกในความอ่อนแอประคับประคองเป็นทั้งพลังกายและกำลังใจให้เขาได้สู้กับความอ่อนแอของตนเองและเอาชนะบาปความอ่อนแอของตนเองให้ได้ เข้ากับแนวความคิดที่ว่า“ให้อภัยให้โอกาสคนบาปแต่ไม่ปล่อยให้กิจการผิดบาปได้ลอยนวล”
“เราบอกท่านทั้งหลายว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมีความยินดีเช่นเดียวกันเมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ”(ลก15:10)
วิธีการ“ดูแลคนบาปอ่อนแอและพลาดผิด”จึงอยู่บนพื้นฐานความรักของพระเยซูคริสตเจ้าคือ“รักอภัยให้โอกาส” มองพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนที่มีโอกาสผิดพลาดได้ มองพวกเขาเป็นพี่น้องของเราที่เราจะรักกันและกันเหมือนอย่างที่พระบิดาทรงรักเรา “รักอภัยให้โอกาสกันและกัน”…