เลิกใช้ชีวิตคริสตชนแบบเว่อร์ๆ ไร้สาระ
สัปดาห์ที่แล้วเราได้ฟังประกาศกอาโมสก่นด่าคนร่ำรวยในอาณาจักรอิสราเอล ทางเหนือ ที่ปฏิบัติอย่างอยุติธรรม ไร้ความเมตตา เบียดเบียนผู้ยากไร้
สัปดาห์นี้ประกาศกคนเดิม ก็หันมาเล่นงานชาวอิสราเอลในอาณาจักรทางใต้ ท่านกล่าวตำหนิติเตียน การดำเนินชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือยของบรรดาผู้นำในประเทศยูดาห์ พร้อมทั้งยังกล่าวทำนายถึงชะตากรรมที่พวกผู้นำเหล่านั้นจะต้องได้รับในอีกไม่ช้าไม่นานนัก
ขอเท้าความเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำ ประชากรของพระเจ้าซึ่งเดิมเป็นปึกแผ่น เป็นประเทศเดียวอยู่ภายใต้การนำของกษัตริย์ แต่เพราะเหตุผลของความไม่เชื่อฟังพระเจ้า การไม่ยอมปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ บทบัญญัติที่พระได้ให้ไว้ ได้นำพาประเทศอิสราเอลที่เดิมเป็นหนึ่งเดียว แตกแยกออกเป็นสองส่วน อาณาจักรทางเหนือ เรียกว่า อาณาจักรอิสราเอล และอาณาจักรทางใต้ เรียกว่า อาณาจักรยูดาห์ และถึงแม้แตกแยกขนาดนี้แล้วประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมทั้งผู้นำก็ยังคงไม่สำนึกในบาปผิดที่ตนได้กระทำ แต่ยังคงถลำลึกในความผิดความชั่ว และความไม่เชื่อฟังพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
วันนี้ประกาศกอาโมส ตำหนิติเตียนการใช้ชีวิตของผู้นำที่หรูหราจนเกินความจำเป็น แม้จะไม่มีการเอ่ยถึงการเหยียบย่ำผู้ที่ยากจนกว่า แต่ก็พอจะเดาได้ว่า ใครก็ตามที่ปรนเปรอประคบประหงมชีวิตของตัวเองมากจนเกินไปจะไม่มีความสนใจ หรือ ไม่ให้ความสนใจแก่บรรดาคนยากไร้ เดือดร้อนที่อยู่รอบๆตัวเองมากเท่าไรนัก ดังปรากฏให้เราเห็นในพระวรสารวันนี้
“เขาทั้งหลายนอนบนเตียงงาช้าง” ก็คือเตียงไม้ที่มีลวดลายประดับด้วยงาช้าง ซึ่งแน่นอนสิ่งประดับที่ทำจากงาช้างย่อมมีราคาแพงแสนแพง ถ้าเป็นปัจจุบันก็คือ ของใช้แบรนด์เนม ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อหามาเป็นเจ้าของ
“เหยียดตัวบนเก้าอี้ยาว” อันได้แก่บุคคลที่มั่งมีด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีมากจนกระทั่งไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งกินนอนกินก็ยังได้ หรือ มีเงินใช้สิบชาติก็ไม่หมด แต่ก็มีประเด็นเช่นเดียวกัน ว่าเงินทองเหล่านั้นหามาได้อย่างไร มาจากการทุจริตคอรัปชั่นหรือไม่?
“กินลูกแกะจากฝูงแพะแกะกินลูกโคที่ขุนไว้ในคอก” สำหรับคนยุคนั้น เนื้อแกะมีราคาแพงมาก ส่วนลูกโคขุน ก็คือลูกวัวที่เลี้ยงด้วยน้ำนม เพื่อจะได้เนื้อวัวที่นุ่ม ราคาไม่ต้องพูดถึง คนจนธรรมดาๆไม่สามารถหาเงินมาจับจ่ายซื้อมารับประทานได้ แต่พวกผู้ดีเหล่านั้นต้องกินอย่างที่กล่าว คนสมัยนี้ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร
“เขาร้องเพลงไร้สาระ ประสานเสียงพิณใหญ่” นั่นคือ ขณะนั่งรับประทานอาหารดีๆ ราคาแพงก็ต้องมีนักดนตรีเล่นดนตรีคลอตามไปด้วย หรือไม่ก็ร้องเองแต่ไม่ค่อยเป็นภาษาคน….เพราะเมา แต่ก็ช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน
“เขาใช้ชามใหญ่ดื่มเหล้าองุ่น” คนทั่วๆไปในสมัยนั้นดื่มเหล้าองุ่นกันนิดหน่อยพอประมาณ ในขณะทานอาหาร แต่ผู้ฟุ่มเฟือยจะใช้ชาม หรือ ภาชนะใหญ่ๆ สำหรับดื่มเหล้าองุ่น เป็นการอวดความมั่งมีของตนเอง ส่วนคนในปัจจุบันเวลาดื่มเหล้าองุ่น ก็ต้องเลือกอย่างกำหนดเจาะจงว่า ต้องเป็นเหล้าองุ่นจากประเทศโน้น ประเทศนี้ จึงจะดี และยังต้องพิถีพิถันไปจนกระทั่งต้องเจาะจงปีผลิตนั่นย่อมแปลว่า ราคาต้องสูงขึ้น และต้องใช้เงินจ่ายมากขึ้น
และสุดท้าย “ใช้น้ำมันอย่างดีชโลมตัว” กินเสร็จอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ต้องทำให้สบายเนื้อสบายตัวคือต้องไปนวดตัว ซึ่งต้องใช้ทั้งบริการของผู้นวดฝีมือดี ส่วนน้ำมันนวดก็จะต้องมีส่วนผสมของสมุนไพรราคาแพง และต้องมีกลิ่นหอม นั่นก็ย่อมหมายถึงราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มอีกเช่นเดียวกัน
และประกาศกก็ลงท้ายว่า “แต่ไม่เป็นห่วงถึงความพินาศของโยเซฟ” สำหรับในยุคของอาโมส ก็คือ ชาวอิสราเอลทางภาคเหนือ ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของอาณาจักรอัสซีเรีย แต่บรรดาผู้นำทางใต้ รวมทั้งประชาชนก็ไม่สนใจ ซึ่งจริงๆแล้วชาวอิสราเอลไม่ว่าจะอยู่ทางเหนือ หรือ ใต้ ก็ยังคงเป็นพี่น้อง เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน แต่ไม่ได้รับความเอาใจใส่ สำหรับสมัยนี้ก็คือ การนิ่งดูดาย ของมนุษย์ยุคปัจจุบัน ที่ไม่ได้เอาใจใส่ต่อกันและกัน
ทั้งหลายทั้งปวงนั้นสะท้อนภาพชีวิตของคนยุคปัจจุบัน และของตัวเราเองด้วย
การนิ่งดูดายเหล่านี้ เรียกร้องพระอาชญาของพระเจ้า ดังที่ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
ดังนั้นพฤติกรรมเหล่านี้ ถ้ามีอยู่ในชีวิตของเราจะต้องได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ชีวิตของคริสตชนต้องเป็นชีวิตที่เลียนแบบชีวิตของพระเยซูเจ้า ไม่ใช่ปล่อยตัวเองดำเนินชีวิตแบบเว่อร์ๆ ไปวันๆตามกระแสของโลก