เป็นนักบุญไม่ยาก
พระเยซูเจ้าทรงเริ่มต้นเทศน์สอนประชาชน โดยทรงเริ่มการสอนของพระองค์ด้วย “บทเทศน์บนภูเขา”
บทเทศน์บนภูเขา อยู่ในพระวรสารของนักบุญมัทธิวบทที่ 5 ถึง บทที่ 7 เป็นคำสอน 3 บทที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่สำคัญ เพียงแค่ปฏิบัติตามคำสอนในบทที่ 5 ถึง บทที่ 7 ชีวิตคริสตชนของเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ด้วยการเป็น “คริสตชนแท้ศิษย์ของพระเยซูเจ้า”
แต่เป็นที่น่าสังเกตตรงที่ว่า บทเทศน์บนภูเขา 3 บท เริ่มต้นด้วยคำสอนที่ถือได้ว่าเป็น “คำสอนเสาหลัก” และที่ปรากฏในพระวรสารวันนี้คือ บทที่ 5 ข้อ 1 ถึง ข้อ 12 ที่ในตัวพระวรสารเรียกตอนนี้ว่า “ความสุขแท้จริง” แต่ในภาษาเก่าเรียกว่า “บุญลาภ 8 ประการ”
และก็เป็นที่น่าสังเกตยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ บุญลาภ 8 ประการ เริ่มต้นด้วย
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา”
พระเยซูเจ้าเริ่มต้นคำสอนของพระองค์ซึ่งเป็นคำสอนที่คนสมัยนี้ไม่อยากได้ยิน เป็นคำสอนที่คนสมัยนี้ได้ยินแล้วอยาก เบือนหน้าหนี เพราะมันไม่เข้าหู หรือระคายหูพวกเขา
“ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นผู้มีบุญ เพราะจะสามารถเข้าสวรรค์ได้”
พระเยซูเจ้าทรงเอา ความยากจน หรือ ความมีใจยากจน เป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง และไม่ได้เพียงแค่สอนเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างอีกด้วย
พระเยซูสอนเรื่องความยากจน โดยทรงปฏิบัติความยากจนให้เราดู และความยากจนของพระเยซูเจ้าเริ่มต้นจากสิ่งที่นักบุญเปาโลเขียนไว้ในจดหมายของท่าน ที่เขียนถึงคริสตชนชาวฟิลิปปีบทที่ 2 ข้อ 6 ถึง 11
แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้น เป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้นทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้นสูงส่ง และประทานพระนามให้แก่พระองค์ พระนามนี้ประเสริฐกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพจะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม “เยซู” นี้ และเพื่อชนทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้าพระบิดา
ความหมายของการ สละพระองค์จนหมดสิ้น คือ การปล่อยวาง การไม่ยึดเกาะ การตัดสละ ฯลฯ การปล่อยวาง การไม่ยึดเกาะ การตัดสละ ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือการมีใจยากจน และพระเยซูเจ้าทรงแสดงความมีใจยากจนของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติภายนอกให้เห็นกันจะๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย เกิดอย่างยากจนเจริญชีวิตอย่างยากจน ทำงานเทศน์สอนอย่างยากจน และสุดท้ายก็ตายอย่างยากจน จนกลายมาเป็นบทเพลงในหนังสือเพลง “สรรเสริญสดุดี” หน้า 154 ชื่อเพลงชีวิตตัวอย่าง โดยเริ่มต้นว่า “ชีวิตจนจนของชายคนหนึ่ง….” แต่ก็ไม่ค่อยได้ยินร้องกัน ไม่รู้ว่าร้องไม่เป็น หรือไม่อยากร้องก็ไม่รู้
ความยากจนหรือ ความมีใจยากจน จะต้องเป็น อัตลักษณ์เด่นของชีวิตคริสตชน
การมีใจยากจนจะสามารถช่วยให้เราสามารถปฏิบัติฤทธิ์กุศลอื่นๆ หรือ ปฏิบัติตามคำสอนอื่นๆของพระเยซูเจ้าได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความนบนอบ ความบริสุทธิ์ การไม่ผูกพันกับใคร หรือ สิ่งใด เพราะผู้มีใจยากจนจะสามารถปล่อยวางชีวิตและหัวใจ จากสรรพสิ่งทั้งปวงได้ ผู้มีใจยากจนจะไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ เพราะพวกมันไม่ได้เป็นสาระสำคัญของชีวิต
คนมีใจยากจนจะไม่ไขว่คว้า หรือแสวงหาไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สิน เกียรติยศ ชื่อเสียง ตำแหน่ง ความนิยมชมชอบจากผู้อื่น ฯลฯ เขาจะกินอยู่อย่างเรียบง่าย สมถะ ชีวิตของเขาจะไม่ยุ่งยาก วุ่นวาย สลับซับซ้อน อีกทั้ง ไม่ทำให้ตัวเองเป็นภาระแก่ผู้อื่น เพราะความอยาก ความปรารถนาที่ไม่สิ้นสุดของตัวเอง
เมื่อคนที่มีใจยากจน มีชีวิตที่ว่างเปล่าไม่ติดเกาะเขาจะสามารถรับพระวาจา และเจริญชีวิตปฏิบัติพระวาจาได้อย่างง่ายดาย เพราะเขาจะไม่ยึดตัวของตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง แต่จะยึดพระวาจาและพระเยซูเจ้าเป็นจุดศูนย์กลาง พระวาจาของพระเยซูเจ้าจะค่อยๆเปลี่ยนชีวิตของเขา และเขาก็จะค่อยๆกลายเป็นนักบุญตั้งแต่อยู่ในโลก กลายเป็นนักบุญทุกๆวัน วันละเล็กวันละน้อย
การเป็นนักบุญก็คือ การที่คนๆหนึ่งมีชีวิตเหมือนกับพระเยซูเจ้าในทุกสิ่ง