“มหาพรต: คิดถึงกางเขนของพระเยซูเจ้าตามใจเราหรือตามน้ำพระทัยพระองค์”
เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า“พระเจ้าข้าที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆถ้าพระองค์มีพระประสงค์ข้าพเจ้าจะสร้างเพิงขึ้นสามหลังหลังหนึ่งสำหรับพระองค์หลังหนึ่งสำหรับโมเสสอีกหลังหนึ่งสำหรับพระองค์” (มธ17:4)
“มหาพรต”ช่วงเวลาที่เราพี่น้องคริสตชนต่างคิดถึงพระทรมานของพระเยซูเจ้าและพยายามปรับเปลี่ยนชีวิตของเราให้เหมาะสมกับหนทางของพระเจ้ามากขึ้น ตามที่มีในประโยคเตือนใจยามเมื่อเราได้รับการโรยเถ้าบนศีรษะ“จงกลับใจและเชื่อในพระวรสารเถิด”
“มหาพรต”ช่วงเวลาที่เราพี่น้องคริสตชนพยายามดำเนินชีวิตให้เหมาะสมกับหนทางของพระเจ้าด้วยกิจศรัทธาในชีวิต“ภาวนา”ที่ดึงชีวิตของเราที่ห่างเหินจากพระเจ้าให้กลับมาคืนดีและชิดสนิทอีกครั้งหนึ่ง “พลีกรรม”ด้วยการอดอาหารและอดเนื้อรวมถึงการอดทนอดกลั้นอดใจมอบตัวเราด้วยความสุภาพต่อหน้าพระเจ้าด้วยเราเป็นลูกที่ไม่รักดีและตกอยู่ในบาป และสุดท้าย“ให้ทาน”ด้วยการอดออมสะสมในสิ่งที่เราเหลือได้จากการพลีกรรมอดออมอดเนื้อและอาหาร และนำสิ่งที่ได้นี้ไปมอบแบ่งปันให้ผู้ยากไร้ที่ต้องการมากกว่าเรา
เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า“พระเจ้าข้าที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆถ้าพระองค์มีพระประสงค์ข้าพเจ้าจะสร้างเพิงขึ้นสามหลังหลังหนึ่งสำหรับพระองค์หลังหนึ่งสำหรับโมเสสอีกหลังหนึ่งสำหรับพระองค์” (มธ17:4)
“มหาพรต” อดไม่ได้ที่เราจะคิดถึง“กางเขนของพระเยซูเจ้า”คิดถึง“ความรักของพระองค์”และ“ความเจ็บปวดบนไม้กางเขนของพระองค์”เพื่อนำความรักและความรอดพ้นของพระบิดาที่ทรงมอบต่อเราทุกคนและเราทิ้งไว้ด้วยบาปราคะในชีวิตมอบคืนให้กับเราแต่ละคน แม้จะแลกมาด้วยการรับแบกไม้กางเขนความเจ็บปวดและความตายที่พระองค์จะต้องทนรับก็ตาม
“มหาพรต”เราคิดถึง“กางเขนของพระเยซูเจ้า” และกิจกรรมในการ“พลีกรรม” คือ“การเดินรูปสิบสี่ภาค” หรือ“มรรคาศักดิ์สิทธ์” เพื่อคิดถึงและร่วมในพระทรมานของพระเยซูเจ้าเพื่อเราจะสามารถทราบซึ้งถึงความรักทั้งมวลที่พระองค์ทรงมอบให้เรา หลายครั้งที่เราละเลยไม่นึกถึงหลายครั้งที่เราร่วมเดินรูปฯเพียงเพื่อสะสมบุญไม่ให้เกิดบาปแต่เราไม่ได้คิดถึง-ทราบซึ้งถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อเราเลยแม้แต่น้อย
เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า“พระเจ้าข้าที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆถ้าพระองค์มีพระประสงค์ข้าพเจ้าจะสร้างเพิงขึ้นสามหลังหลังหนึ่งสำหรับพระองค์หลังหนึ่งสำหรับโมเสสอีกหลังหนึ่งสำหรับพระองค์” (มธ17:4)
น่าเสียดายที่แม้แต่พี่น้องคริสตชนนิกายโปรแตสตันท์บางส่วน เมื่อได้ร่วมคิดถึง“มรรคาศักดิ์สิทธ์” เขาได้พบและทราบซึ้งถึงความรักของพระองค์ น่าคิดสำหรับชีวิตคริสตชนลูกของพระอย่างเราท่าน ว่าเราได้รับรู้และทราบซึ้งถึงความรักของพระองค์มากน้อยเพียงใด เราคิดถึงกางเขนของพระเยซูเจ้าคิดถึงพระทรมานของพระองค์ตามใจเราหรือเราทราบซึ้งถึงน้ำพระทัยรักของพระองค์.