ความรักเล็กๆที่…ยิ่งใหญ่
“พระองค์จึงเสด็จเข้าไปพักกับเขา ขณะประทับที่โต๊ะกับเขา พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ทรงถวายพระพร ทรงบิขนมปังและทรงยื่นให้เขา เขาก็ตาสว่างและจำพระองค์ได้” (ลก 24:30-31)
สองสามวันที่ผ่านมา มีข่าวเล็กๆที่น่าสนใจมากอยู่เรื่องหนึ่ง คุณลุงอายุ 54 ปี จำนำเตารีดที่โรงจำนำที่โคราช เป็นเงินคืน 100 บาท และพร้อมส่งดอกเบี้ย เดือนละ 50 สตางค์ เป็นเวลานานถึง 16 ปี โดยไม่มีขาดตกบกพร่อง และยังพร้อมที่จะรักษาสัญญาต่อไป แม้จะมีคนสงสัยว่าทำไมคุณลุงจึงทำเช่นนี้ตลอดมา ทั้งๆที่ถ้ารวมยอดดอกเบี้ยที่สงมารวมกันก็พอจะไถ่นำเตารีดคืนมาได้แล้ว
ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยกับเตารีดเก่าตัวหนึ่งซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบหกปี เตารีดปัจจุบันก็ราคาไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้นเอง ข่าวเล็กๆนี้ดูแล้วยิ่งใหญ่สำหรับพ่อ ตรงความซื่อตรงสม่ำเสมอของคุณลุงที่มีต่อข้อตกลงข้อสัญญา แม้ดูตามภาพที่เห็น ดูแล้วเป็นเรื่องเล็กน้อย สมัยนี้อย่างว่าแต่หน่วยสตางค์เลย เหรียญหนึ่งบาทหรือแม้แต่ห้าบาทหลายคนยังไม่มองเลย แทบไม่มีอีกแล้ว กับคำที่ว่า “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท…”
“ศิษย์ทั้งสองคนจึงพูดกันว่า ใจของเราไม่ได้เร่าร้อนเป็นไฟอยู่ภายในหรือ เมื่อพระองค์ตรัสกับเขาขณะเดินทาง และทรงอธิบายพระคัมภีร์ให้เขาฟัง เขาทั้งสองคนจึงรีบออกเดินทางกลับไปกรุงเยรูซาเล็มในเวลานั้น” (ลก 24:32-33)
ศิษย์สองคนที่เดินทางกลับบ้านที่เอมาอุส พวกเขาผ่านเรื่องราวอันเรียบง่ายและเป็นปรกติทุกมื้ออาหาร ทุกวัน นั่นคือการทานอาหาร แต่ครั้งนี้เมื่อเขาได้เห็นพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ “หยิบขนมปัง ถวายพระพร บิขนมปังและยื่นให้พวกเขา” พวกเขาก็ตาสว่างและจดจำพระอาจารย์ได้
ที่สำคัญ เมื่อเขาได้พบและจำพระองค์ได้ ความกลัวที่รออยู่ตรงหน้าที่ว่ายากจะผ่านกลับกลายเป็นไร้ค่าในสายตาไปเลย พวกเขาจึงไม่หวั่นกลัวที่จะวิ่งฝ่าความมืดและอันตรายที่เคยหวาดกลัวไปประกาศข่าวดีเรื่องการกลับคืนชีพของพระอาจารย์
เราก็สามารถจำพระองค์ได้จากกิจการดีเล็กๆที่มอบให้แก่กัน ให้กับเพื่อนรอบกายเรา มันจึงเป็นความรักเล็กๆที่ยิ่งใหญ่…ที่สุด นกขุนทอง