“เรื่องง่ายๆที่เนื้อแท้ช่างยากเย็น… เมื่อมีพระองค์เรามีพลัง”
“ถ้าท่านทั้งหลายรักเราท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราและเราจะวอนขอพระบิดาแล้วพระองค์จะประทานผู้ช่วยเหลือองค์หนึ่งให้ท่านเพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไปคือพระจิตแห่งความจริง” (ยน14:15-16)
ในหนังสือกิจการอัครสาวกเรื่องราวการประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้าที่บรรดาอัครสาวกรวมทั้งพี่น้องคริสตชนสมัยเริ่มแรกดูจะเป็นเรื่องที่ไม่สลับซับซ้อนดูแล้วบังเกิดผลไม่มีอุปสรรคมากมายนักอย่างที่ในบทอ่านแรกของสัปดาห์นี้พูดถึงเรื่องของนักบุญฟิลิป “ฟิลิปไปเมืองหนึ่งในแคว้นสะมาเรียและประกาศเรื่องพระคริสตเจ้าให้ชาวเมืองนั้นฟัง….” และหลังจากนั้นหนังสือกิจการอัครสาวกได้เล่าต่อไปว่านักบุญเปโตรและนักบุญยอห์นได้สานงานประกาศข่าวดีต่อ “เมื่อ…ไปถึงก็อธิษฐานภาวนาเพื่อชาวสะมาเรียเหล่านั้นให้ได้รับพระจิตเจ้า”(เทียบกิจการอัครสาวก8:5-8,14-17)
“หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าการทนทุกข์เพราะทำความดีย่อมดีกว่าการทนทุกข์เพราะทำความชั่ว”(1ปต3:16-17)
เรามองเห็นบรรดาผู้ชำนาญการในเรื่องต่างๆทำหน้าที่ของตนอย่างคล่องแคล่วว่องไวไม่ติดขัดไม่มีอุปสรรคปัญหา อย่างเช่นพนักงานขับรถ ดูจะขับขี่ได้อย่างว่องไวคล่องแคล่วเหมือนกับทักษะนี้มากับเขาตั้งแต่ในท้องแม่ แต่ใครจะรู้บ้างไหมว่า…ก่อนที่พนักงานเหล่านี้จะมาขับรถได้อย่างที่เราเห็น เขาขับรถชนนั่นชนนี่นับครั้งไม่ถ้วน เสียค่าซ่อมแซมไปเท่าไรแล้ว ก่อนที่เขาจะมาขับรถให้เราแต่ละคนประทับใจเช่นทุกวันนี้
“ท่านจะรู้ว่าเราอยู่ในพระบิดาของเราท่านอยู่ในเราและเราอยู่ในท่าน ผู้ที่มีบทบัญญัติของเรา และปฏิบัติตาม ผู้นั้นรักเราและผู้ที่รักเราพระบิดาของเราก็จะทรงรักเขาและเราเองก็จะรักเขาและจะแสดงตนแก่เขา” (ยน14:20-21)
หัวใจที่ซ่อนอยู่ในทักษะอันทรงประสิทธิภาพน่าอัศจรรย์ใจก็คือ การอุทิศตนฝึกฝนอย่างไม่ย่อท้อจนเกิดเป็นความคุ้นเคยและกลายมาเป็นทักษะ หัวใจที่ซ่อนอยู่ในบรรดาอัครสาวกในบรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าและในเราทุกคนที่เดินตามพระองค์ก็คือ “ชีวิตเราอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงอยู่ในชีวิตของเรา”
เราดำเนินชีวิตของเราเหมือนกับว่าพระองค์ทรงกระทำเองในชีวิตของเราในมือของเราในเท้าของเรา หัวใจที่ซ่อนอยู่และไม่สลับซับซ้อนเลยก็คือ เมื่อมีพระองค์เมื่อเราเปิดใจเปิดชีวิตให้พระองค์อยู่เคียงข้างเรา “เรื่องง่ายๆที่เนื้อแท้ช่างยากเย็น… เมื่อมีพระองค์เรามีพลัง”