สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2014
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
เมื่อเราพิจารณาดูสิ่งที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงกระทำในถิ่นทุรกันดารแล้วเราจะพบว่ามีเรื่องที่จะต้องจดจำกระทำตามมากมายในการดำเนินชีวิตเป็นคริสตชนของเรา
ประการแรกคือการรู้จักที่จะบังคับตนเองไม่ปล่อยตัวตามกระแสโลกกระแสวัตถุนิยมบริโภคนิยมซึ่งทำให้มนุษย์หันมาสนใจเรื่องภายนอกความสะดวกสบายทางกายพยายามที่จะมีทรัพย์สินเงินทองให้มากเพื่อซื้อหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆทำให้ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นหลายครั้งจึงไม่ได้สนใจชีวิตจิตใจคุณธรรมศีลธรรมทำอย่างไรก็ได้ขอให้ได้ในสิ่งที่ต้องการแม้จะผิดคุณธรรมจึงเกิดการคดโกงเอารัดเอาเปรียบกันในสังคมเกิดความรุนแรงในรูปแบบต่างๆตามมามากมาย
จากเหตุข้างต้นที่กล่าวมานี้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่า“กระแสโลก”มิใช่สิ่งที่จะก่อให้เกิดความสุขที่แท้จริงเพราะความสุขที่แท้จริงนั้นมันเป็นเรื่องของจิตใจที่สงบมีสติไม่ลุ่มหลงหรือตกอยู่ใน“ความอยาก” ต่างๆที่เขาเรียกกันว่า“ตัณหา” นั่นเอง
ผู้ที่ฝากชีวิตของตนอยู่บนกระแสโลกวัตถุนิยมบริโภคนิยมย่อมต้องพบกับความทุกข์เสมอเพราะเขาจะผิดหวังทำใจไม่ได้ขาดสติจิตไม่สงบและจะทำในสิ่งที่ผิดพลาดอยู่เสมอเพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้มันไม่จีรังยั่งยืนผิดกับคนที่ดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบรู้จักบังคับตนเอง(ความอยาก) เขาจะมีจิตใจเข้มแข็งสิ่งภายนอกต่างๆไม่สามารถจะทำให้เขาเป็นทุกข์ได้เขาสามารถที่จะอยู่กับความยากลำบากต่างๆด้วยความอดทนและเอาชนะมันได้ในที่สุด
ประการที่สองในถิ่นทุรกันดารพระเยซูเจ้าทรง“ภาวนา”ติดต่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาชีวิตของเราคริสตชนก็เช่นกันเราต้องมีชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระมิใช่ด้วยทฤษฎีแต่ต้องเป็นกิจการที่แสดงออกมาอย่างชัดแจ้งและมาจากใจอย่างแท้จริงเช่นการสวดภาวนาการับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่สำคัญชีวิตประจำวันของเราจะต้องเป็นการทำให้ผู้อื่นได้เห็นพระเยซูวิธีดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องที่เหลือเชื่อเกินความจริงเพราะจากประสบการณ์มีให้เห็นเสมอเช่นเวลาที่มีพี่น้องต่างศาสนาที่เขาสนใจอยากเรียนรู้จักพระเยซูอยากเป็นคริสตชนเมื่อถามเขาว่าทำไมเขาอยากเป็น… คำตอบที่พบบ่อยๆคือเขาจะบอกว่าเขาเห็นเพื่อนของเขาเป็นคนดีน่ารักและเมื่อรู้ว่าเหตุที่เขาเป็นอย่างนั้นเพราะเขาเป็นคริสตชนเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับผู้คนจำนวนมากมายที่มาเป็นคริสตชน…
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งชีวิตแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกับพระนี้แหละจะทำให้เราสามารถเอาชนะการประจญล่อลวงต่างๆได้เพราะพระองค์จะทรงคุ้มครองป้องกันเราเสมอการเจริญชีวิตด้วยพระวาจาของพระเจ้าการอ่านพระวาจาซึ่งที่แท้แล้วคือการฟังพระองค์ทรงตรัสกับเราทรงสอนเราจึงเป็นพลังแห่งการเอาชนะความไม่ดีต่างๆได้
(ต่อสัปดาห์หน้า… สวัสดีครับ)