สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง
อาทิตย์ที่ 24 ส.ค. 2014
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
ในขณะที่บรรดาฟาริสีคัมภีราจารย์พากันต่อต้านหาทางกำจัดพระเยซูเจ้าออกไปจากสังคมของพวกเขาก็มีบรรดาประชาชนจำนวนมากมายพากันมาติดตามพระองค์และดูเหมือนว่าจะยิ่งทียิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น… ความจริงเหตุการณ์เช่นนี้ก็มิใช่เรื่องแปลกเพราะต้องเข้าใจว่าสังคมในขณะนั้นประชาชนชาวยิวกำลังตกอยู่ในความยากลำบากเพราะเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิโรมันต้องมีการส่งส่วยให้กับโรมันพวกหัวหน้าที่ได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองดูแลพวกเขาก็ยังมีการเอารัดเอาเปรียบกดขี่ข่มเหง… ตัวอย่างเช่นพวกเขาจะไม่ชอบคนที่ทำหน้าที่เก็บภาษีจะไม่คบหาสมาคมกับคนเก็บภาษีเป็นต้น
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงอยู่กับพวกเขาคอยช่วยเหลือดูแลรักษาพวกเขาให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บบางครั้งก็ทรงตอบโต้ฟาริสีคัมภีราจารย์อย่างรุนแรงทรงตำหนิการกระทำของพวกเขาประชาชนจึงเห็นและเข้าใจว่าพระองค์นี่แหละคือผู้ที่มาช่วย“ปลดแอก”ของพวกเขาจากการถูกกดขี่ข่มเหงพระเยซูนี่แหละคือผู้นำที่แท้จริงและยิ่งเห็นพระองค์ทรงทำอัศจรรย์มากมายหลายครั้งหลายหนยิ่งทำให้พวกเขามั่นใจในพระเยซูเพิ่มขึ้นแม้พวกเขาจะยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำไปว่าที่แท้แล้วพระองค์คือพระเป็นเจ้าเป็นพระผู้ไถ่ที่เสด็จมากอบกู้มนุษย์ให้พ้นบาปความเข้าใจเกี่ยวกับพระเยซูเจ้ามีเพียงเข้าใจว่าพระองค์นี้แหละคือฮีโร่คือหมอวิเศษที่รักษาทุกโรค
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจในเรื่องราวของพระองค์ท่ามกลางบรรดาลูกศิษย์โดยเฉพาะกับบรรดาอัครสาวกคนใกล้ชิดนั้นก็คือปัญหาความขัดแย้งระหว่างพวกเขาด้วยกันเองดูเหมือนว่าพวกเขาเองก็มิได้รู้จักหรือเข้าใจอย่างแท้จริงว่าพระองค์เป็นใครพวกเขาคิดว่าพระองค์จะทรงกอบกู้พวกเขาจากจักรวรรดิโรมันจะทำให้พวกเขาเป็นอิสระจะสถาปนาอาณาจักรขึ้นใหม่และเมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาในฐานะลูกศิษย์ผู้ติดตามพระองค์ก็จะได้ดีมีตำแหน่งมียศถาบรรดาศักดิ์…
พวกเขาจึงแย่งกันเป็นใหญ่จะเห็นได้จากพระวรสารบรรดาศิษย์โต้เถียงกันว่าในกลุ่มของตนผู้ใดควรจะได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุดพระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า“กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่นและผู้มีอำนาจเรียกตนเองว่าเจ้าบุญนายคุณแต่ท่านทั้งหลายจงอย่าเป็นเช่นนั้นท่านที่เป็นใหญ่ที่สุดจงทำตนเป็นผู้น้อยที่สุดผู้ที่เป็นผู้นำจงเป็นผู้รับใช้” (ลก22:24-26)
เมื่อเห็นว่าพวกสาวกไม่เข้าใจแล้วพระเยซูเจ้าจึงทรงอบรมสอนพวกเขาซึ่งคำสอนของพระองค์มันตรงกันข้ามจริงๆกับความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาดูเหมือนว่าปัญหาในหมู่ลูกศิษย์ของพระองค์นี้แหละทำให้พระองค์ต้องหนักพระทัยเราจะเห็นได้ที่ทรงตำหนิพวกเขาหลายครั้งหลายหนอย่างรุนแรงเช่นที่ทรงตำหนิเปโตร(มธ16:21-23)
พระองค์ทรงทราบดีว่าพระองค์จะต้องทำให้บรรดาศิษย์ของพระองค์มั่นใจและค่อยๆเข้าใจและรู้จักพระองค์อย่างถูกต้องโดยทรงเปิดเผยพระองค์ทีละเล็กทีละน้อยและเราก็ทราบว่าสุดท้ายแล้วบรรดาศิษย์ของพระองค์(อัครสาวก) ก็สามารถเป็นพยานถึงพระองค์ด้วยชีวิตของตน… แต่ก็อย่าลืมว่าในบรรดาศิษย์เหล่านั้นเองก็มีคนหนึ่งทรยศต่อพระองค์ด้วย …สวัสดีครับ.
(ต่อสัปดาห์หน้า)