สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 21 ก.ย. 2014
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
ทรงสิ้นพระชนม์ในพระวรสารเราทราบว่าเมื่อพระองค์ทรงแบกกางเขนมาถึงยอดเขากัลวารีโอแล้วณที่นั้นเองเป็นที่ที่พระองค์จะต้องมอบพระชนม์ชีพความเป็นมนุษย์ของพระองค์อย่างสมบูรณ์เพื่อเป็นค่าไถ่มนุษยโลก…!
ณที่นั้นพวกทหารจับพระองค์นอนบนกางเขนที่พระองค์ทรงแบกมาและสิ่งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ณที่นั้น(หรือได้เห็นในภาพยนตร์) กลั้นน้ำตาไม่อยู่ก็คือเขาเอาเหล็กแหลมตอกที่พระหัตถ์และพระบาทให้ตรึงติดกับกางเขนเราได้เห็นพระโลหิตสดๆไหลหยดลงสู่พื้นดินพระพักตร์อันเต็มด้วยคราบพระโลหิตจากมงกุฎหนามแสดงออกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเราเห็นพระโลหิตจากรอยเหล็กแหลมที่พระหัตถ์และพระบาทหยดลงสู่พื้นดิน…
พวกเขาค่อยๆยกกางเขนที่มีพระวรกายของพระองค์ติดตรึงอยู่ขึ้นจนกระทั่งกางเขนนั้นได้ตั้งตรงด้วยการกระแทกลงไปในหลุมที่ขุดไว้แน่นอนขณะที่กางเขนกระแทกลงไปนั้นทั้งพระหัตถ์และพระบาทที่มีเหล็กแหลมตอกตรึงอยู่กับกางเขนคงจะทำให้รอยแผลที่พระหัตถ์และพระบาทฉีกขาดออกไปอีก.. มงกุฎหนามที่อยู่บนพระเศียรคงจะกดกระชับลงไปที่ศีรษะของพระองค์…
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นบนยอดเขากัลวารีโอในขณะนั้นคงจะหาคำบรรยายไม่ได้จริงๆองค์พระเยซูเจ้าทรงทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดฝ่ายกายอย่างที่สุดและแน่นอนพระองค์ยังทรงทุกข์ทรมานฝ่ายจิตใจด้วยเพราะณเชิงกางเขนนั้นเองพระมารดาของพระองค์ทรงยืนอยู่ทรงกรรแสงด้วยความทุกข์อย่างแสนสาหัสเช่นกันที่เห็นบุตรชายของตนกำลังจะสิ้นใจต่อหน้าต่อตา
สำหรับพวกเราณเชิงกางเขนนั้นนอกจากชีวิตที่จะได้กลับเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่งแล้วพระองค์ยังทรงประทานของขวัญอันล้ำค่า… และเป็นของขวัญอันยิ่งใหญ่สำหรับเราตลอดไป… นั่นคือพระองค์ทรงมอบพระมารดาของพระองค์ให้เป็นมารดาของเราทุกคนเมื่อพระเยซูเจ้าทรงเห็นพระมารดาและศิษย์ที่รักยืนอยู่ใกล้ๆจึงตรัสกับพระมารดาว่า“แม่..นี่คือลูกของแม่” แล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า“นี่คือแม่ของท่าน” นับตั้งแต่นั้นศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางเป็นมารดาของตน(ยน19:26-27)
นี่เองเราทุกคนจึงมีมารดาที่ทรงคอยดูแลช่วยเหลือเราตลอดไปเพราะนักบุญยอห์นคือผู้แทนมนุษย์ทุกคน…สวัสดีครับ.
(ต่อสัปดาห์หน้า)