“ผู้นำตามที่โลกณวันนี้ต้องการ”
ตอน“แม่พระ” : “ผู้ตอบรับเสียงเรียกเชิญของพระเจ้าด้วยใจสุภาพ”
“องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมจักรวาลทรงจัดเตรียมงานเลี้ยงฉลองสำหรับประชากรของพระองค์…พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของทุกคน…เราจงชื่นชมยินดีที่พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้น” (เทียบอสย25:6,8-9)
เดินทางมาจนถึงตอนสุดท้ายในใจจนได้กับเรื่อง“ผู้นำตามที่โลกณวันนี้ต้องการ” ต้องขอย้ำว่าไม่ใช่“ผู้นำตามที่โลกณวันนี้มีหรือเป็นกันอยู่” แน่นอนย่อมมีผู้นำตามี่โลกณวันนี้ต้องการรวมอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำตนให้เป็นผู้นำตามที่โลกณวันนี้ต้องการจริงๆได้
“อาณาจักรสวรรค์พระเจ้าเรียกเชิญเรา…ผู้รับเชิญมีมากผู้จะตอบรับคำเชิญไม่ค่อยมีผู้ตอบรับคำเชิญและสมจะได้รับเลือกมีน้อย” (เทียบมธ22:1-14)
พูดตรงๆโลกณวันนี้ต้องการผู้นำตามแบบ“องค์พระเยซูคริสตเจ้า” ผู้นำที่ยอมมอบชีวิตอุทิศให้กับทุกคนไม่เลือกหน้าไม่เลือกถูกผิดดีเลวชอบหรือชังเกลียด ขึ้นชื่อว่าให้พระเยซูให้ด้วยใจกว้างเสมอ ในมุมมองของพระคริสต์ผู้นำที่โลกณวันนี้ต้องการไม่หวังได้ทรัพย์กลับคืนมาไม่สนใจคำว่าคุ้มไม่คุ้มไม่อาศัยความรุนแรงและการสั่งการ พระเยซูต้นแบบของผู้นำที่โลกณวันนี้ต้องการหวังเพียงว่าบุคคลที่อยู่ข้างหน้าเขาจะได้รับความรอดพ้นได้รับความรักของพระบิดา
บทความตอนสุดท้ายของหัวเรื่องนี้จึงขอมอบแด่“พระนางมารีย์แม่พระของเรา” เป็นต้นในโอกาสเดือนตุลาคมเดือนที่เราคิดถึงแม่พระเป็นพิเศษคิดถึงการภาวนาสายประคำการภาวนาในครอบครัวหมู่มิตรเพื่อนพี่น้อง และจะยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว เมื่อเราสวดสายประคำคิดถึงแม่พระแม่ของเรา ให้เราคิดถึงรำพึงถึงแบบอย่างชีวิตของแม่พระด้วย
“ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า” (ฟป4:13)
แม่พระรับฟังเสียงของพระเจ้าผ่านทางคำของ“ทูตสวรรค์คาเบรียล” แม่พระที่จริงตั้งใจมอบชีวิตให้กับพระเจ้าในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่เมื่อได้รับฟังเสียงของพระแล้ว แม้จะไม่ชอบไม่อยากเป็นหรือทำ แต่แม่พระก็ยอมรับเสียสละและตอบรับเสียงเรียกเชิญของพระเจ้า
โลกนี้สังคมนี้ล้างสมองล้างใจความคิดของเราว่าจะเป็นผู้นำจะเป็นที่หนึ่งต้องมีอำนาจมีเงินสามารถสั่งการทุกอย่างต่อทุกคนได้ นั่นจึงจะเป็นผู้นำ แต่แม่พระเป็นตัวอย่างดีเยี่ยมให้เราเห็นว่า “ผู้นำตามที่โลกณวันนี้ต้องการ”นั้น จริงๆแล้วเขาจำเป็นจะต้องเป็นผู้นำที่มีหัวใจและชีวิตที่สุภาพถ่อมตนและพร้อมตอบรับเสียงเรียกเชิญของพระเจ้าในชีวิตจริงของเราเสมอ.