“เราร่วมชีวิตกับพระคริสตเจ้า…แพร่ธรรมแบ่งปันพระวาจาด้วยชีวิตของเรา“
“เราจับมือขวาของท่านไว้เพื่อปราบชนหลายชาติให้อยู่ใต้อำนาจ…เพราะเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเราเราออกชื่อท่านเรียกท่านเราให้ตำแหน่งแก่ท่านแม้ท่านไม่รู้จักเราเราเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกนอกจากเรา… เพื่อคนทั้งหลายจากทิศตะวันออกและจากทิศตะวันตกจะได้รู้ว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเราเราเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก” (เทียบอสย45:1-2, 4-6)
ในแต่ละช่วงของห้วงเวลาหนึ่งปีนั้นพระศาสนจักรได้จัดแบ่งและวางช่วงเวลาต่างๆเป็นช่วงเทศกาลหมุนเวียนไปเช่นเทศกาลธรรมดาที่เรากำลังดำเนินชีวิตเป็นปกติอยู่หรือช่วงเทศกาลวันพระคริสตสมภพที่เริ่มใกล้เข้ามาหรือจะเป็นช่วงเทศกาลมหาพรต-ปัสกาที่พี่น้องคริสตชนร่วมชีวิตของตนเป็นพิเศษร่วมกับพระทรมานและหวังจะกลับคืนชีพพร้อมกับองค์พระคริสตเจ้า
ยิ่งไปกว่านั้นพระศาสนจักรวางวันเวลาเฉพาะเจาะจงมากขึ้นไปอีกว่าเป็นวันที่เราคิดถึงเหตุการณ์พิเศษใดด้วยมีความคิดพื้นฐานตรงข้ามกับเทศกาลในงานรื่นเริงของที่ต่างๆเพราะนี่หวังเพียงแจ้งข่าวว่าจะมีงานและหวังหากำไรเงินทองแต่เทศกาลของพิธีกรรมเราหวังแจ้งแนวทางในการดำเนินชีวิตให้พี่น้องคริสตชนของเรา
“จากเปาโลสิลวานัสและทิโมทีถึงพระศาสนจักรที่เมืองเธสะโลนิกาซึ่งอยู่ในพระบิดาและในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าขอพระหรรษทานและสันติสถิตกับท่านทั้งหลายเถิดเราขอบพระคุณพระเจ้าทุกเวลาเพื่อท่านทุกคนระลึกถึงท่านในคำภาวนาเราวอนขอเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าพระบิดา” (1ธส1:-3)
สัปดาห์นี้พระศาสนจักรสากลชวนเชิญเราทุกคนคิดถึงวัน”แพร่ธรรมสากล” วันนี้มีความหมายสำคัญอย่างไรกับชีวิตเรากัน ลองคิดดูครับ ตัวอย่างจากชีวิตของพ่อเอง แม่เคยเล่าให้ฟังว่าเคยคิดจะทำหมันกันสองคนสามีภรรยาเพราะมีลูกถึงหกคนแล้วและบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยเหนื่อยมาก แต่เวลาเรียนคำสอนกับคุณพ่อ(พระสงฆ์)เตรียมตัวก่อนรับศีลแต่งงานคุณพ่อบอกว่าการทำแท้ง-ทำหมันนั้นเป็นบาปทำไม่ได้ ท่านทั้งสองจึงตัดสินใจไม่ไปทำหมัน ในเวลาต่อมาพ่อและพี่ชายคนที่เจ็ดจึงสามารถลืมตาดูโลกได้ คำสอนของพระให้ชีวิตกับเรา ถ้าไม่มีใครสอนคำสอนจะมีพระสงฆ์ท่านนั้นไหมถ้าไม่มีพระสงฆ์ท่านนั้นพ่อกับแม่คงไม่รู้คำสอนรวมถึงบาปบุญคุณโทษและคงไปทำหมันและพ่อคงไม่มีโอกาสร่วมชีวิตและแบ่งปันกับพี่น้อง
เริ่มแรกพระเป็นเจ้าตรัสกับเราผ่านทางบรรดาประกาศก ต่อมาพระองค์ตรัสกับเราทางพระบุตรพระเยซูคริสตเจ้าและในเวลานี้พระองค์ตรัสกับเราทางพระวาจาทางคำสอนของพระองค์โดยมีพระศาสนจักรสากลคอยร่วมมือกับพระคริสตเจ้าร่วมมือกับพระวาจาของพระองค์
“พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่าของของซีซาร์จงคืนให้ซีซาร์และของของพระเจ้าก็จงคืนให้พระเจ้าเถิด” (มธ22:21)
อันดับแรกเงินที่เราทำบุญเป็นต้นร่วมกับการรณรงค์เพื่อ”งานแพร่ธรรมสากล” และสองนั้นคำภาวนาที่เราร่วมกันภาวนาทั้งในเวลาส่วนตัวทั้งเมื่อร่วมกันในครอบครัวทั้งเมื่อถึงเวลาที่เราร่วมกับพี่น้องคริสตชนคนอื่นในการสวดสายประคำในการร่วมบูชาขอบพระคุณพระเจ้า
สุดท้ายชีวิตคริสตชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อศรัทธาและการแบ่งปันชีวิตน้ำใจให้โอกาสให้อภัยกัน ทั้งสามสิ่งนี้ช่วยส่งเสริมและร่วมงานแพร่ธรรมแพร่พระธรรมคำสอนของเจ้าร่วมกับพระคริสตเจ้าพระเจ้าของเรา.