ความรักของพระเยซู: เราเรียกการกระทำตามใจปรารถนานี้ว่า“ความรัก“
ท่านได้รับพระวาจาด้วยความทุกข์ยากหลายประการแต่ท่านก็ยังมีความปีติยินดีของพระจิตเจ้า ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเป็นแบบอย่างให้กับผู้มีความเชื่อทุกคน…พระวาจาของพระดังก้องมาจากท่าน…ความเชื่อของท่านในพระเจ้ายังเลื่องลือไปทั่วทุกหนทุกแห่ง” (1ธส1:6-8)
มาร่วมค่ายผู้นำเยาวชนระดับชาติครั้งที่21 ณวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์บ้านเข็กน้อยจังหวัดเพชรบูรณ์ ปีนี้วนมาเพื่อนสังฆมณฑลนครสวรรค์เป็นเจ้าภาพ วันหนึ่งขณะร่วมขับรถพาเด็กเยาวชนแรลลี่กึ่งพักผ่อนไปตามสถานที่ท่องเที่ยวการเดินทางขึ้นลงโค้งซ้ายขวาหวาดเสียวเป็นระยะระยะ ขณะขับตามคันหน้าที่มีพระสงฆ์รุ่นน้องขับนำให้ ขณะต้องกลับรถย้อนทางถนนที่ทั้งโค้งชันแล้วน่ากลัว ทันทีมีเสียงในใจบอกให้พ่อจอดรถห่างสักหน่อยและเปิดไฟฉุกเฉิน ทำเช่นนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของรถคันหน้าเพื่อนของเราให้สามารถกลับรถได้อย่างสบายใจ และปลอดภัย เราเรียกการกระทำตามใจปรารถนาเช่นนี้ว่า”ความรัก”.
“ถ้าท่านยึดเสื้อคลุมของเพื่อนไว้เป็นประกันท่านจะต้องคืนให้เขาก่อนตะวันตกดินเพราะเสือคลุมเป็นผ้าห่มกายผืนเดียวที่เขามีเขาจะใช้สิ่งใดป้องกันความหนาวเมื่อนอนเมื่อเขาร้องขอความช่วยเหลือ จากเราเราก็จะฟังคำขอร้องของเขาเพราะเราเป็นผู้มีเมตตากรุณา” (อพย22:26-27)
ขณะร่วมกันเดินด้วยความเหนื่อยอ่อนเหนื่อยล้าแต่สนุกสุขใจ พบเยาวชนหลายคนพยายามเดินไปพร้อมกับเพื่อนมองดูเพื่อนข้างหน้า เพื่อดูว่าเพื่อนเป็นอย่างไรมีอะไรที่ตนจะช่วยบริการได้ และยังมองไปยังเพื่อนที่ อยู่ด้านหลังด้วยใจเป็นห่วงเพื่อนบาดเจ็บหรือหมดแรงเหนื่อยเพลียต้องการพัก หรือดูแลเรื่องใดบ้าง และ…เราก็เรียกการกระทำตามใจปรารถนานี้ว่า”ความรัก”ด้วยเช่นกัน.
“บทบัญญัติเอกคือรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านสุดจิตใจสุดวิญญาณสุดสติปัญญาของท่านประการที่สองคือรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง”(มธ22:37-39)
พระเยซูเจ้าพระวาจาของพระองค์เตือนใจเราให้เราดำเนินชีวิตด้วยความรักโดยมอบกิจการแสดงความรักให้กับเพื่อนพี่น้องรอบกายเรา เป็นกิจการแสดงความรักง่ายๆประจำวันไม่ต้องเป็นเรื่องใหญ่โต เพียงแค่มองดูความต้องการของกันและกันตามด้วยห่วงใยดูแลรักษากันและกันและสร้างสิ่งเล็กๆเพื่อมอบให้กันทีละวันจนสม่ำเสมอ และนี่แหละ…เราเรียกการกระทำตามใจปรารถนาเช่นนี้ว่า”ความรัก”.