มาขอให้มาเต็ม ให้ก็จงให้หมดใจ
“…ทูตสวรรค์กล่าวว่า อย่าลงมือฆ่าเด็กหรือทำร้ายเขาเลย บัดนี้ พระเจ้ารู้แล้วท่านยำเกรงพระองค์ และมิได้หวงบุตรคนเดียวของท่านไว้ ไม่ถวายแก่พระเจ้า” (ปฐก 1:12)
คำไทยเรามักพบคำว่า “หมกเม็ด” กับ “ซอกหลืบ-เสี้ยวใจ” เราเตรียมจะส่งงานหรือส่งอะไรให้ใคร แต่รู้สึกยังไม่ดียังไม่พร้อม เราจัดการซ่อนสิ่งไม่ดีงามไว้ และแล้วเราก็เดินเข้าสู่กระบวนการ “หมกเม็ดร้าย” ทันที หรือเรายังยึดติดเสียดายบางส่วนสิ่งในของที่ตั้งใจจะมอบให้ใครไป เราจึงให้เขาไปไม่หมด แอบเก็บเศษส่วนหนึ่งไว้ไม่ให้ไป ยิ่งเป็นเรื่องความรัก-หัวใจ เราแอบเก็บเศษเสี้ยวใจไว้ในซอก-หลืบของใจตน มันทรมานใจเราที่ต้องแอบซ่อน-ไม่จริงใจ อีกทั้งอาจทำให้หัวใจของคนที่รักเรา”ใจสลาย” หากรับรู้ความจริง
อาการเหล่านี้ไม่เกิดกับ “อับราฮัม : บิดาแห่งความเชื่อ” ของเราเลย ท่านจริงใจกับพระเป็นเจ้า ท่านมาหาพระเต็มทั้งตัว-หัวใจ ให้พระองค์อย่างหมดใจไม่มีหมกเม็ด หือแอบซ่อนบางเสี้ยวส่วนเอาไว้ และนี่แหละที่พระองค์ยกย่องท่านให้เป็นต้นแบบผู้มีความเชื่อ เทียบเคียงได้กับคำว่า “บุตรสุดที่รัก” ยามเมื่อพระบิดาใช้คำนี้เรียกพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรสุดที่รักของพระองค์
“เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง ๆ เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์”
เวลาเรารักใครจริงจัง รักอย่างหมดหัวใจ เรียกได้ว่ามาเต็มทั้งครบ ให้ทั้งหมดของใจ เราจะลืมตัวเองไป เราจะลืมที่จะรักตัวเอง ยอมสลายตัวเอง เพื่อมอบทั้งหมดเท่าที่มีให้อีกฝ่ายหนึ่งที่เรารัก
พระเป็นเจ้าพระบิดา ผ่านทางองค์พระเยซูคริสตเจ้า-พระบุตรสุดที่รักก็ทำเช่นนี้ให้กับเราที่บนไม้กางเขน ให้เราทั้งหมดมาครบ หมดจนเลือดหยดสุดท้าย พระองค์สลายธรรมชาติและสิทธิของพระเจ้า อีกทั้งตั้งใจที่จะลืมมองดูชีวิตตนเอง เพื่อว่าความสามารถของดวงตาทั้งหมดจะได้มองดูเราที่พระองค์ทรงรัก และมอบความรักทั้งหมดให้เรา
ช่วงเตรียมชีวิตเป็นพิเศษในช่วงมหาพรตนี้ชวนเราทุกคน พลีกรรม ภาวนา หรือให้ทานก็ตาม เราทำแบบ “มาให้เต็ม ให้หมดใจ” มอบให้แก่กันและกัน ที่สำคัญสุดเรามอบให้พระเป็นเจ้าผู้ทรงรักเราอย่างที่สุด.