แสงสว่างจากเทียนดวงน้อยกลางความมืด
พระเยซูเจ้าตรัว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงใช้เรามาอย่างไร เราก็ใช้พวกท่านไป อย่างนั้น…ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามพระองค์” (ยน 20:21,29,31)
เทียนดวงเดียวถูกจุดท่ามกลางความมืดมิด ใครละจะคิดได้ว่าจะทำให้ทั้งห้องกลับสว่างทันตาเห็น พระคริสตเจ้าที่ใครๆ ก่อนพระเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในวันแห่ใบลาน พวกเขาโห่ร้องยินดีต้อนรับด้วยหวังให้พระองค์นำเขายิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็พบว่าพระองค์ไม่ใช่ผู้ตอบสนองตัณหาให้พวกเขาและร้องให้ฆ่าพระองค์ “เอาไปตรึงกางเขน”
พระคริสตเจ้า ชายที่ดูแล้วไม่มีอะไรจะให้ ไม่ต่างอะไรกับนักโทษ แต่เมื่อถึงวันที่พระองค์กลับคืนชีพ พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างอันยิ่งใหญ่ มอบความรอดตามพระสัญญาของพระเจ้าให้กับเราทุกคน
“กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมี เป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม” (กจ 4:32)
ในคืนสุดท้ายของการสัมมนาสงฆ์กรุงเทพฯ กีตาร์ตัวน้อยของพระสงฆ์น้องใหม่ที่เพิ่งบวชปีแรก คุณพ่อน้อยและกีตาร์ตัวน้อยของท่านได้เป็นแสงสว่าง สันติสุข และรอยยิ้มอันครื้นเครงเปี่ยมสุข ดังก้องกังวานทั่วบ้านผู้หว่าน และหัวใจของพระสงฆ์ทุกท่าน ความมืดมิดในหัวใจของพี่น้องของเรา สามารถถูกส่องสว่างด้วยความรักจากชีวิตเรา โดยมีความรัก-การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าเป็นพลังให้แสงสว่างดวงน้อยของเราแม้จะเป็น “แสงสว่างจากเทียนดวงน้อยดวงเดียวกลางความมืดมิด”
พระเยซูเจ้าตรัว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงใช้เรามาอย่างไร เราก็ใช้พวกท่านไป อย่างนั้น…ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข” เรื่องราวเหล่านี้ถูกบันทึกไว้เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตเดชะพระนามพระองค์” (ยน 20:21,29,31)