โป๊ปฟรังซิส: “ชายและหญิงคือเนื้อเดียวกันและต้องพึ่งพากัน ไม่ใช่ผู้ชายเป็นใหญ่ฝ่ายเดียว”
Posted by editor@popereport.com on 23:59
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ การที่พระเจ้าสร้างผู้หญิงด้วยการซี่โครงของผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่า ผู้หญิงเป็นหุ่นจำลองของผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงอ่อนด้อยกว่าผู้ชาย และก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้ชายต้องเป็นใหญ่ฝ่ายเดียว ส่วนผู้หญิงต้องเป็นผู้รับใช้ เพราะในความเป็นจริง ชายและหญิงคือเนื้อเดียวกันและต้องพึ่งพากัน ทรงชี้ ชายและหญิงต้องปกป้องคำมั่นสัญญาของกันไว้ อย่าให้ใครมาทำร้ายสถาบันครอบครัว เพราะผลร้ายจะตกอยู่กับลูกของเรา
ช่วงสายวันพุธที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 50,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน วันนี้ พระสันตะปาปายังคงเทศน์สอนภายใต้หัวข้อ “ครอบครัว” โดยคราวนี้ทรงเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง
พระสันตะปาปา ตรัสว่า “อาดัม มนุษย์คนแรกได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยว และพระเจ้าทรงตัดสินใจที่จะทำให้เขามีผู้ช่วยที่เหมาะกับตัวเขา เมื่อมนุษย์คนแรกถูกสร้างขึ้นให้กับผู้ชาย เขา(อาดัม)ตระหนักได้ทันทีว่า กระดูกของเธอ(เอวา)ก็คือกระดูกของตน และเลือดเนื้อของเธอก็เป็นเลือดเนื้อของเขา
“ที่สุดแล้ว มันคือภาพสะท้อนและเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ผู้หญิงไม่ใช่หุ่นจำลองของผู้ชาย แต่เธอมาจากการสร้างโดยตรงจากพระเจ้า ภาพของซี่โครง(ที่พระเจ้านำออกมาจากตัวของผู้ชาย เพื่อสร้างผู้หญิง) ไม่ได้แสดงออกถึงความอ่อนด้อยกว่าหรือการอยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ในทางกลับกัน มันหมายความว่า ทั้งชายและหญิงคือเนื้อเดียวกันและมีความเกี่ยวเนื่องกัน
“พระเจ้าทรงมีพระทัยเมตตากรุณาต่อชายและหญิง พระองค์ทรงมอบความไว้วางใจในการดูแลโลกให้กับพวกเขา แต่ปีศาจได้เข้ามานำเสนอความสงสัย การไม่เชื่อฟังพระเจ้า และความไม่วางใจกันให้กับความคิดของพวกเขา และนั่นก็เป็นชักนำพวกเขาให้ทำบาปแรกเริ่ม บาปที่ก่อให้เกิดความไม่วางใจกันและความแตกแยกระหว่างชายกับหญิง ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกทำลายลงด้วยการทารุณกรรมและการกดขี่ข่มเหงสารพัดรูปแบบ ยังรวมไปถึงการหลอกลวงหลายอย่าง และการดูหมิ่นเหยียดหยามเรื่อยไปจนถึงการก่อให้เกิดความรุนแรงระหว่างกัน
“เรื่องแบบนี้ ยังก่อให้เกิดวัฒนธรรมล้าสมัยนั่น ผู้ชายเท่านั้นที่เป็นใหญ่ ส่วนผู้หญิงคือผู้รับใช้ นอกจากนี้ พ่อยังอยากเตือนเกี่ยวกับการลุกลามอย่างรวดเร็วของความไม่วางใจต่อกัน การสงสัยและระแวงกัน แม้กระทั่งความเป็นศัตรูกันที่แผ่ขยายอย่างรวดเร็วในวัฒนธรรมสมัยใหม่ของเรา
“ถ้าเราไม่สามารถสร้างความเห็นอกเห็นใจต่อคำสัญญาระหว่างชายกับหญิง ลูกๆ ก็จะถูกทำร้ายเพิ่มมากขึ้นแน่นอน การไปลดความสำคัญทางสังคมของคำสัญญาระหว่างชายกับหญิงนั้น แน่นอนว่า เป็นผลเสียกับทุกคน ดังนั้น เราต้องรื้อฟื้นความภูมิใจของการแต่งงานและการสร้างครอบครัว เพื่อปกป้องคำมั่นสัญญาระหว่างชายกับหญิง สิ่งนี้คือความท้าทายสำหรับพวกเราผู้มีความเชื่อทุกคนและมันยังเป็นกระแสเรียกที่น่าตื่นตาตื่นใจ(ในการปกป้องสถาบันครอบครัว) ในสังคมยุคปัจจุบันด้วย” พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย
หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงวันคุ้มครองโลก ซึ่งตรงกับวันนี้พอดี พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า “พ่ออยากเตือนใจทุกคนว่า ขอให้มองโลกตามแบบสายพระเนตรของพระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระผู้สร้าง โลกคือสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับการปกป้อง นี่คือสวนที่ต้องได้รับการเพาะปลูก ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษยชาติกับธรรมชาติ ต้องไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภ การยึดครอง และการทำลายล้าง แต่เราต้องดำรงรักษาสิ่งต่างๆ ให้ดำรงอยู่ด้วยความเคารพและเอาใจใส่ตลอดไป” พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ