“ขุนพลแท้ ภารกิจมอบความรักของพระ และทหารห่วย”

“ทุกคนที่ยำเกรงพระองค์และปฏิบัติความชอบธรรม ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติใด ย่อมเป็นที่พอพระทัยพระองค์” (กจ 10:35)

ความต่างระหว่าง “ขุนพลแท้” กับ “พลทหารห่วย” ….. “ทหารห่วยๆ ต่างปรารถนาจะออกไปสู้รบแต่เฉพาะเวลาที่ตนเองเห็นว่าไปสู้แล้วชนะแน่ๆ ยิ่งถ้าไม่ต้องออกแรงสู้เลยยิ่งดี บ้างก็หาทางประจบประแจงเพื่อให้ตนเองได้สบาย แต่หากเห็นแววว่าจะแพ้แน่ๆก็จะยอมไปอยู่ในพวก “ทหารหนีทัพ” (แต่ก็มีทหารดีๆมากมายที่แม้ตัวจะตายก็จะยอมพลีเพื่อรักษาป้องกันชาติ-ภารกิจเอาไว้…)  

ตรงข้าม “ขุนพลแท้” ไม่ว่าจะมีแววส่อว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้  แต่เมื่อถึงเวลาออกรบจะไม่หยุดจนกว่าจะชนะหรือหมดลมหายใจ  ประการที่สำคัญ “ขุนพลแท้” จะตะโกนก้องและวิ่งออกนำหน้าเป็นคนแรกเพื่อเผชิญกับศัตรูหรือแม้แต่ความตาย.  นี่แหละ “ขุนพลแท้” ที่พระเป็นเจ้าทรงรักและพอพระทัย

“ท่านที่รักทั้งหลาย เราจงรักกัน เพราะความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่มีความรัก ย่อมเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระองค์ ผู้ไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก ความรักของพระเจ้าปรากฏให้เราเห็นดังนี้ คือ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรเพียงพระองค์เดียวมาในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้น ความรักอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงรักเรา และทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อชดเชยบาปของเรา มิใช่อยู่ที่เรารักพระเจ้า” (1ยน 4:7,10)

สามสี่วันก่อนมีประสบการณ์ได้กับพนักงานร้านหนังสือ “ซีเอ็ดบุ๊ค สาขาสีลมคอมเพล็กซ์” ประทับใจในความมีน้ำใจในการช่วยห่อปกหนังสือที่ซื้อไปสิบเล่มได้  เผอิญเป็นหนังสือชุด…เมื่อห่อปกพลาสติกแล้วเกิดข้อขัดข้องจนหนังสือเข้ากล่องไม่ได้

พนักงานท่านหนึ่งก็พยายามแก้พลาสติกที่ห่ออยู่ทุกเล่นและหาทางช่วยให้ห่อและสามารถกลับมาใส่ได้  ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้  เธอเป็น “ขุนพลแท้” จริงๆ  ที่ไม่ย่อท้อกับภารกิจ และเป็นคนแรกที่ออกฝ่าฟันภารกิจนั้นโดยไม่เลี่ยงไม่โยนความรับผิดชอบให้ผู้อื่น  นับว่าเธอเป็น “ขุนพลแท้” ที่พระเป็นเจ้าทรงรักและพอพระทัย

“พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา” (ยน 15:9-10)

 “การมอบความารัก…รักแท้” มันต้องออกแรงมันต้องออกจากตัวเองและก้าวเดินไปหาผู้อื่นถูกใจเราบ้างไม่ถูกใจบ้าง เขายอมรับเราบ้างปฏิเสธเราบ้าง มันก็มีบ้างที่เราเหนื่อยท้อ ที่สำคัญท้อแล้วอย่างถอยอย่าหยุด จงจำไว้ว่าเราเป็น “ขุนพลแท้” ที่รับมอบหมายจากพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงมอบภารกิจให้เราภาวนามีชีวิตติดสนิทกับพระองค์ และก้าวเดินออกไปเพื่อมอบความรักของพระองค์ให้กับพี่น้องรอบข้าง

จงจำไว้ว่าเราเป็น “ขุนพลแท้” เพื่อมอบความรักและสันติสุข  มิใช่ “ทหารห่วยๆ” ที่ท้อถอยและหยุดหนีเมื่อพบเจอปัญหา ทางตัน หรือการถูกปฏิเสธจากผู้อื่น