“จุดเริ่มต้นของการให้อภัย กับจุดเริ่มต้นของผลไม้ลูกหนึ่ง”
พระองค์จึงลุกขึ้นสั่งห้ามลมและคลื่นว่า “เงียบสงบซะ” และทันใดนั้นเอง ลมก็หยุดพัดและคลื่นก็สงบลง (มก 4:39)
สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่ที่วัด ขึ้นมาร่วมสัมมนาพระสงฆ์จิตตาภิบาลและผู้ประสานงานเยาวชนจากทุกสังฆมณฑล พร้อมกับมาร่วมสำรวจดูพื้นที่ที่จะถูกจัดค่ายผู้นำเยาวชนคาทอลิกระดับชาติ ปีนี้เราจะจัดที่เขตวัดพระมารดานิจานุเคราะห์ บ้านดินขาว อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยปีนี้สังฆมณฑลเชียงใหม่รับเป็นเจ้าภาพ
การเดินทางเต็มไปด้วยสองฝากข้างขุนเขาและต้นไม้ ร่มเย็นเป็นสุขปุเลงปุเลงไปตามสภาพของท้องถนนที่ราบและขรุขระสลับกันไปไม่ต่างจากชีวิตของเรามีสีสันสดใสสลับกับหมองเทาเช่นกัน ทางดูโหดขึ้นและเพิ่มความชันโค้งขึ้นทุกลมหายใจ
พระองค์จึงลุกขึ้นสั่งห้ามลมและคลื่นว่า “เงียบสงบซะ” และทันใดนั้นเอง ลมก็หยุดพัดและคลื่นก็สงบลง (มก 4:39)
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง…โรงเรียนเซนต์โยเซฟ แม่แจ่ม ได้รับการตอนรับอย่างอบอุ่นของคณะเซอร์ และเด็กๆที่นี่ ข้ามไปถึงโต๊ะอาหารเห็นผลไม้ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้การต้อนรับพวกเรา ผลไม้ที่นี่รสชาติหวาน หวานไม่มากมายนัก แต่ความหวานเพียงพอให้เรารู้สึกสดชื่นชื่นใจใจฉ่ำทุกคำ
ความหวานของผลไม่ลูกหนึ่งพาให้พ่อทบทวนรำพึงถึงจุดเริ่มต้นของผลไม้ที่หวานฉ่ำผลนี้ มีนเริ่มจากดินที่ดี ถูกพวนดิน ใส่ปุ๋ยดูแลอย่างดี ลงกล้าให้น้ำดูแล และเติบโต ค่อยเติบใหญ่ให้กิ่งก้าน จนที่สุดเราได้ผลไม้ที่หวานฉ่ำวางอยู่ที่โต๊ะ และเราปลอกใส่ปากและพบความสุข
แล้วพระองค์พูดกับพวกเขาว่า “กลัวอะไรกัน ยังไม่ไว้วางใจเราอีกหรือ” (มก 4:40)
ความรักถึงขั้น “ให้อภัย” บ้างก็ว่าทำได้ยาก บ้างก็ว่าไม่ยากจนเกินไปจนทำไม่ได้หรอก ไม่ว่าง่ายหรือยาก การให้ “อภัย” เป็นเพียงผลสุดท้าย เป็นดังผลไม้ผลนี้ที่ถูกจัดวางไว้ที่โต๊ะ ย่อมมีจุดเริ่มต้น จุดเริ่มต้นของการให้อภัยเริ่มที่เรา ได้รับการอภัยจากพระ สำนึกและขอบคุณพระ ปรารถนาส่งต่อความนักนี้ของพระ
“จุดเริ่มต้นของการให้อภัย” เราเริ่มในชีวิตจริงด้วย “การพรวนจิตใจ” ทำให้ใจเราภาวนา และพร้อมที่จะรัก ที่จะพูดคำพูดที่อ่อนโยนให้กำลังใจ กล้าที่จะหยุดและช้าลงเพื่อให้ผู้อื่นแซงหน้าและเร็วขึ้น ค่อยๆพรวนดินพรวนหัวใจทำวันละน้อย ที่สุดใจของเราก็จะพร้อมที่จะให้อภัย