มูลเหตุความอ่อนแอของพระศาสนจักร
วันสมโภชท่านนักบุญเปโตรและเปาโล ในวันนี้ เป็นวันที่พระศาสนจักรอันประกอบด้วย ฆราวาส พระสงฆ์ และนักบวชทั้งชายและหญิง จะต้องหันมาพิจารณาดูชีวิตของตัวเอง ซึ่งเป็นพระศาสนจักร และตั้งอยู่บนศิลาหลัก 2 ก้อน คือ ท่านนักบุญเปโตรและเปาโล
เปโตรเป็นหลักมั่นคงแห่งความเชื่อ
เปาโลเป็นผู้ป้องกันความเชื่อที่จะต้องยึดถือ
นั่นคือคำที่เอ่ยถึงท่านทั้ง 2 ในบทภาวนาเริ่มขอบพระคุณ
ทั้ง 2 ท่านเป็นอัครสาวกของพระเยซูเจ้าแต่มีข้อสังเกตสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามไปคือ อัครสาวกของพระเยซูเจ้ามี 12 คน ดังรายชื่อที่หลายคนรู้จักจนสามารถท่องขึ้นใจได้ และในจำนวน 12 ท่าน เหล่านั้น 1 ท่าน คือ บุคคลที่เราฉลองสมโภชในวันนี้ แต่มีท่านหนึ่งที่ไม่มีรายชื่อในรายชื่ออัครสาวก 12 แต่ก็ถูกเรียกว่าเป็นอัครสาวก นั่นคือ ท่านนักบุญเปาโล
เราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าทำไม ท่านนักบุญเปาโลจึงถูกเรียกว่าเป็นอัครสาวกเทียบเท่าอัครสาวกองค์อื่นๆ 12 คนของพระเยซูเจ้า ทั้งๆที่ท่านก็ไม่ได้อยู่ร่วมทีม 12 อัครสาวกของพระเยซูเจ้า
พระศาสนจักรมอบฉายาอัครสาวกให้แก่ท่านนักบุญเปาโล ก็เพราะชีวิตของท่าน ยิ่งใหญ่พอๆกับอัครสาวกองค์อื่นๆอีก 12 คน
ศักดิ์ศรีและเกียรติยศของท่านนักบุญเปาโลอยู่ที่ชีวิตของท่าน ที่เสียสละอุทิศตน และทำงานประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้า ที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่า อัครสาวกองค์อื่นๆอีก 12 คน เสียด้วยซ้ำ บันทึกการเดินทางและบันทึกคำสอนของท่านในรูปแบบของจดหมายฉบับต่างๆ คือตัวบ่งชี้เหตุผลดังกล่าวแต่ที่เด่นสุดคือ ชีวิตของท่านที่ยอมทุกอย่างเพื่อพระเยซูเจ้า
ท่านนักบุญเปโตรและเปาโล เป็นตัวอย่างของศิษย์แท้ของพระเยซูเจ้า ที่ยอมทุกอย่างเพื่อพระเยซู
ศิษย์แท้ต้องยอมทุกอย่างเพื่อพระเยซู
ความรักและความศรัทธาแท้จริงที่คนๆหนึ่งมีต่อพระเยซูเจ้า ต้องดูจากชีวิตที่ยอมทุกอย่างเพื่อพระเยซูเจ้า
ท่านทั้งสองยอมอุทิศชีวิต เสียสละ และทำทุกอย่างที่พระเยซูเจ้าต้องการ แม้กระทั่งยอมเสียสละชีวิตเพื่อพระเยซูเจ้า
เสียสละชีวิตเพื่อพระเยซูเจ้า ไม่ได้แปลว่า การยอมตาย หรือ การยอมหลั่งเลือด เพื่อพระเยซูเจ้าเท่านั้น
สละชีวิตหมายถึง การยอมสละตัวตน ยอมสละน้ำใจ ยอมสละความอยากได้ใคร่ดีฝ่ายโลก ยอมสละความสุขทุกชนิดตามภาษาโลก ฯลฯ เป็นการยอมสละเพื่อพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์ทรงขอร้องและเรียกร้องให้เราทำดังกล่าว
ความรักและความศรัทธาแท้จริงต้องดูจากตัวบ่งชี้ตัวนี้เท่านั้น
และดังที่ได้เกริ่นไว้ตอนต้นว่าเราต้องหันมาพิจารณา ตรวจสอบชีวิตของเราในฐานะที่เราเป็นพระศาสนจักรหรือเป็นสมาชิกพระศาสนจักร ตรวจสอบดูว่าชีวิตของเราเหมือนหรือคล้ายกับชีวิตของท่านนักบุญเปโตร เปาโลหรือไม่
เรากำลังทำทุกอย่างเพื่อพระเยซูเจ้า หรือว่าเรากำลังทำทุกอย่างเพื่อใคร? หรือ เพื่ออะไร? ที่นอกเหนือไปจากพระองค์
ชีวิตของพระศาสนจักรตั้งอยู่บนศิลาทั้ง 2 ก้อน ชีวิตของเราต้องเหมือนศิลาทั้ง 2 ก้อนนั้น และถ้าเราปฏิบัติแตกต่างไปจากศิลาทั้ง 2 ก้อน เรากำลังทำให้พระศาสนจักรสั่นคลอน หรือ ร้ายไปกว่านั้น เรากำลังทำให้พระศาสนจักรปั่นป่วน
ความสั่นคลอนและปั่นป่วนของพระศาสนจักรในหลายๆที่เกิดจากการที่สมาชิกพระศาสนจักรดำเนินชีวิตแหกคอก แตกต่างไปจากพระเยซูเจ้า และบรรดาอัครสาวก
การทำทุกอย่างที่ไม่ใช่เพื่อพระเยซูเจ้า แต่เพื่อจุดประสงค์อื่น ที่ไม่ใช่พระเยซูเจ้า ก็เป็นการทรยศต่อพระองค์ และเป็นการนำพระเยซูเจ้ามาเป็นสะพาน เพื่อบรรลุเป้าหมายของตน เป็นการทรยศ อีกทั้งยังเป็นเกลือเน่า หรือ เป็นหนอนบ่อนใชพระศาสนจักร
พระศาสนจักรไม่มีวันที่ประตูนรกจะเอาชนะได้ดังที่พระเยซูเจ้าบอกก็จริง แต่พระศาสนจักรจะสามารถอ่อนแอ ง่อนแง่น คลอนแคลน เหมือนคนเจ็บป่วย ถ้าเกิดพระศาสนจักรมีสมาชิกที่มีสภาพดังที่บรรยายไว้ข้างบน จำนวนยิ่งมาก พระศาสนจักรก็ยิ่งแย่
“พระศาสนจักรต้องยึดมั่นในพระเยซูเจ้า(เปโตร) และพระศาสนจักรจะต้องรู้จักปกป้องตัวเองไม่ให้สูญเสียความยึดมั่นนั้น(เปาโล)” โดยการหลีกเลี่ยงไม่ปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปตามกระแสโลก