“พระเป็นเจ้าตรัสเอาโทษผู้เลี้ยงผู้ดูแลที่พระองค์ส่งมาและมอบหมายให้ดูแลประชากรของพระองค์แต่พวกเขาไม่รับผิดชอบ กลับปล่อยทิ้งขว้าง…และพระองค์จะรวบรวมผู้ที่รอดชีวิตมายังทุ่งหญ้าที่เคยอยู่ และประทานผู้ดูแลที่ดีให้กับเขา และประชากรของพระองค์จะปลอดภัยไม่ต้องกลัวอีกต่อไป” (เทียบ ยรม 23:1-6)
ความขัดแย้ง หาหนทางออก หาผู้รับผิดชอบใครถูกผิด เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเสมอไม่ว่าจะไกลหรือเกิดใกล้ตัวเราก็ตาม ทำอย่างไรได้เมื่อมนุษย์เราต่างก็มีความต้องการส่วนตัวของตน และเราอยู่ร่วมเป็นสังคมมิใช่ตัวเปล่ามีเงาเดียว เมื่อความต้องการไม่ตรงกันความขัดแย้งไม่เบาบางก็รุนแรงย่อมเกิดหากเราไม่เห็นใจกัน อภัยกัน และไม่ยอมให้กันบ้าง
ไม่นานมานี้ (อันที่จริงปัญหาในชาติก็มีอยู่มากแล้ว) ประเทศไทยเราพบปัญหาค่อนข้างหนัก กับเรื่อง “ความขัดแย้งและทำร้ายทำลายกันระหว่างรัฐบาลจีน กับพี่น้องชนเผ่าอุยกูร์” ทางจีนเรียงร้องให้ไทยเราส่งกลับชนเผ่าอุยกูร์ที่ลี้ภัยมาในไทย ส่งกลับไปจีน แต่เข้าใจว่าหากพวกเขากลับไปมีอันตรายมากกว่า
“โดยทางไม้กางเขน พระเยซูคริสตเจ้าทรงทำให้ทั้งสองฝ่ายกลับคืนดีกับพระเจ้า รวมเป็นกายเดียว และทรงขจัดการเป็นศัตรูกัน” (เทียบ อฟ 2:13-18)
ประเทศไทยจึงดูแย่ เลวร้ายในสายตาพี่น้องในโลก เป็นต้นในสายตาพี่น้องโลกมุสลิม เห็นได้จากมีการกระทำรุนแรงเพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจกับการตัดสินใจทำของรัฐบาลไทย ทั้งหมดนี้เนื่องจากชาวอุยกูร์กลุ่มนี้มีหลักแหล่งอยู่ที่เมืองซินเกียง ซึ่งเป็นบริเวรของพี่น้องมุสลิม ทีแรกจีนยึดแบ่งพวกเขาออกจากกลุ่มใหญ่ โดยพี่น้องมุสลิมเช่นในตุรกีตอนนั้นถูกรัสเซียสมัยพระเจ้าซาร์ตีแบะยึดครอง โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นญาติพี่น้องกัน จึงพอเข้าใจได้ถึงสิ่งพวกเขาทำ
เราจะไม่วิจารณ์ว่าใครถูกผิดบ้างจากเหตุการณ์หลายครั้งหลายช่วงเวลา และหลากเหตุผล แต่ปรารถนาเทียบให้เห็นความทุกข์ความเจ็บปวดในชีวิตของพี่น้องเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ครอบครัวหนึ่ง จนขยายเป็นกลุ่มคนชุมชนหนึ่ง
“เมื่อพระองค์พักกับบรรดาศิษย์ และทรงลงเรื่อไปที่สงัดกับบรรดาอัครสาวก เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือทรงแลเห็นประชาชนมากมายก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง พระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง” (มก 6:30-34)
พระเยซูเจ้าทรงมองดูฝูงชน และสงสารเขาเพราะพวกเขาถูกละเลย และถูกทำร้าย พวกเขาต้องการการเอาใจใส่ดูแลรักษา พระเยซูเจ้าจึงยอมวางทุกสิ่งที่มี วางความสุขความต้องการส่วนตัว และให้เวลามอบชีวิตแก่พวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องอุยกูร์ พี่น้องชนชาติเชื้อชาติไหน หรือพี่น้องในบ้านเราครอบครัวเราหรือใครที่ไหน น่ารักน่าชังเท่าไร ถามตัวเองว่าเราทำแบบพระเยซูพระอาจารย์มากน้องเพียงใด เราเปิดดวงตามองเห็นพี่น้องที่กำลังทนทุกข์เราเห็นบ้างไหม เราสงสารกันบ้างไหม เราหยุดเราวางความต้องการส่วนตัว และให้เวลามอบชีวิตให้กันเหมือนพระองค์ทรงทำแล้วหรือยัง.