สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง15 ก.พ. 2015
พึ่งผ่านวันวาเลนไทน์วันแห่งความรักไปหมาดๆเชื่อว่าหลายท่านคงจะดีใจได้ปลื้มมีคนบอกรักมีคนให้ของขวัญให้ความสุขกันพอสมควรจึงหวังว่าขอให้สิ่งดีๆที่ทุกท่านได้รับจงคงอยู่กับตนไปนานๆ
อาจจะมีบางคนเหมือนกันที่“รักคุด”เมื่อต้องเป็นทุกข์ด้วยการเสียใจต้องน้ำตาไหลเพราะถูกบอก“เลิกรัก”ก็ขอเป็นกำลังใจให้ตั้งสติเริ่มต้นลุกขึ้นใหม่ด้วยความเข้มแข็งด้วยการ“ตัดใจ”และ“ทำใจ”ให้ได้ ชีวิตของเรายังต้องก้าวไปอีกยาวไกลทุกอย่างเป็นบทเรียนบทสอนไม่ต้องโกรธต้องแค้น(พูดง่ายแต่ทำยากเนอะ!) แล้วเราจะไม่ทุกข์เพราะโกรธแค้นมันเป็นเรื่องของ“ใจ”ของเราเองแล้วทำไมเราจะต้องทำให้ตัวเองเป็นทุกข์… อาแมน.
เมื่อวานนี้(14 ก.พ.) ที่มหาวิหารนักบุญเปโตรกรุงโรมพระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์เกรียงศักดิ์โกวิทวาณิชของเราได้รับการสถาปนาเป็นพระคาร์ดินัลจากองค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสไปแล้วดังที่พี่น้องหลายท่านคงจะได้ชมกันไปแล้วทางโทรทัศน์แน่นอนว่านับเป็นความชื่นชมยินดีมิใช่เพียงเราคาทอลิกเท่านั้นแต่ยังเป็นการประกาศให้โลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยของเราแม้จะมีคาทอลิกเพียงประมาณ3 แสนคน หรือ0.40 เปอร์เซ็นต์ของพลเมืองรวมแต่ก็ได้รับพระเมตตาจากพระเป็นเจ้าให้มีพระคาร์ดินัลถึง2 องค์
ตามกำหนดการวันนี้สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงเป็นประธานถวายบูชาขอบพระคุณร่วมกับพระคาร์ดินัลพระสังฆราชพระสงฆ์นักบวชและสัตบุรุษเป็นการโมทนาคุณพระเป็นเจ้าณมหาวิหารนักบุญเปโตรในเวลา16.30 น. ตามเวลาในประเทศไทยและจะมีการถ่ายทอดสดทางTNN 24 เช่นกันถ้าพี่น้องท่านใดจะติดตามร่วมพิธีไปพร้อมๆกันณโอกาสนี้ทางหน้าจอทีวีเพื่อร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันก็จะเป็นการสมควรอย่างยิ่ง
สำหรับพระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์เกรียงศักด์โกวิทวาณิชหลังจากได้รับการสถาปนาฯแล้วยังคงต้องปฏิบัติภารกิจประชุมร่วมกับบรรดาพระสังฆราชจากประเทศต่างๆ ตามกำหนดการที่มีมาก่อนหน้านี้แล้วและจะกลับมาถึงประเทศไทยในวันที่9 มีนาคม2015 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจะจัดงานฉลองสมณศักดิ์พระคาร์ดินัลในวันเสาร์ที่14 มีนาคม2015 ณโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์สามพรานซึ่งจะมีรายละเอียดให้ทราบต่อไป
เรื่องสุดท้ายของสัปดาห์นี้ขอกล่าวถึง“มหาพรต” บวก“ตรุษจีน” ซึ่งในปีนี้มาอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันแต่ดูเหมือนลักษณะและธรรมชาติของเทศกาลเป็นเรื่องตรงกันข้ามเลยคือ“มหาพรต”เป็นเวลาของการกลับใจใช้โทษบาปการจำศีลอดอาหารบังคับตนเองด้วยการลดละเลิกอบายมุขความฟุ้งเฟ้อต่างๆแต่“ตรุษจีน”เป็นช่วงเวลาของงานเฉลิมฉลองรื่นเริงงานเลี้ยงความสนุกสนานหลายคนถามแล้วเอายังไงจะทำยังไงสภาพระสังฆราชฯจึงประกาศให้ถือเป็นแนวปฏิบัติดังนี้คือใครที่ไม่สะดวกในการจำศีลอดอาหารในวันพุธรับเถ้า(18 กุมภาพันธ์) ก็ให้เลื่อนไปทำในวันอื่นได้แต่ถ้าใครจะถือปฏิบัติในวันนั้นตรงวันเลยก็ทำได้เหมือนกันแต่การรับเถ้าในวันพุธนั้นให้ทำปกติและตามที่ถือปฏิบัติจะมีการโรยเถ้าในวันอาทิตย์ถัดไปอยู่แล้ว
อนึ่งมหาพรตคือเวลาของการมาหาพระเป็นจิตตารมณ์ที่เราจะต้องเด่นชัดมากขึ้นในความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์… สวัสดีครับ.