สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง1 มี.ค.2015
เคยได้ยินคำสอนให้กำลังใจกันบ่อยๆว่า“ท้อได้แต่อย่าถอย”ความหมายก็คือเกิดมาเป็นมนุษย์ย่อมมีความ“รู้สึก”และอันว่าความ“รู้สึก”นี้เองเกิดขึ้นได้ในหลายลักษณะเช่นรู้สึกดีใจรู้สึกเสียใจรู้สึกผิดชอบชั่วดี คำว่า“ท้อ”มาจากคำว่า“ท้อแท้” แปลตรงๆก็คือหมดกำลังใจยอมแพ้ไม่สู้แล้วอะไรทำนองนี้นั่นแหละ
ดังนั้นท้อได้แต่อย่าถอยจึงเป็นคำพูดที่ต้องการจะบอกว่าเมื่อมีความรู้สึกหมดกำลังใจหมดหวังอยากจะเลิกอยากจะหยุดไม่เอาแล้วขอให้สู้ต่อไปอดทนทุ่มเทหาหนทางเสริมพลังเพื่อเอาชนะอุปสรรคหรือปัญหาต่างๆให้ได้
ด้วยเหตุนี้เองมนุษย์เราจึงต้องการ“กำลังใจ”อยู่เสมอเป็นต้นเมื่อมีปัญหามีอุปสรรคในชีวิตจะพูดไปแล้วกำลังใจที่เราได้รับนั้นมันทำให้เราเกิดความรู้สึกทันทีว่าเรามิได้อยู่เพียงลำพังในโลกนี้เรายังมีเพื่อนมีคนหวังดีและปรารถนาดีกับเราและดูเหมือนว่าทุกคนตระหนักและทราบดีในเรื่องนี้จะเห็นได้จากการที่มีการแสดงออกอย่างชัดแจ้งมีเพลงที่แต่งขึ้นมาร้องหลายต่อหลายเพลงเพื่อให้กำลังใจกันบทเพลงฮิตติดตลาดร้องกันได้ทั้งบ้านทั้งเมืองเช่นเพลง“ดอกไม้ให้คุณ” เป็นต้น
อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่ามนุษย์เราจะรู้ว่า“กำลังใจ”มีความสำคัญสามารถทำให้ผู้คนมากมายสามารถยืนหยัดเอาชนะความยากลำบากอุปสรรคปัญหาต่างๆไปได้แต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันสังคมของเรากลับขาดกำลังใจที่จะมีให้กันและกันการมีชีวิตด้วยไม่ว่าจะเป็นในฐานะครอบครัวพ่อแม่ลูกสามีภรรยาหรือในฐานะเพื่อนฝูงผู้ร่วมงานฯลฯกลับละเลยในเรื่องนี้กลายเป็นชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ตัวใครตัวมันไม่ค่อยจะสนใจใยดีกันและกันมิหนำซ้ำบางครั้งนอกจากจะไม่ให้กำลังใจกันแล้วยังตอกย้ำซ้ำเติมกันทำให้ต้องเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเป็นต้นจากคนใกล้ตัว
พี่น้อง“การให้กำลังใจกันและกัน”จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เราควรจะนำมาเป็นข้อคิดพิจารณาสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันให้มีความสุขและเป็นต้นในระหว่างเทศกาลมหาพรตนี้ต้องกระทำให้เป็นความจริงในภาคปฏิบัติให้ได้มิใช่เป็นเพียงความคิดหรือทฤษฎีเท่านั้นและขอแนะนำว่าให้เริ่มทันทีเริ่มจากคนใกล้ตัวในครอบครัวในหมู่คณะเป็นอันดับแรกไม่ต้องรอเวลาเริ่มง่ายๆด้วยการคิดดีพูดดีและทำดีกับทุกๆคน
ก่อนลากันในสัปดาห์นี้จึงขอ“เป็นกำลังใจ”ให้กับทุกท่านโดยเฉพาะท่านที่กำลังมีความทุกข์ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตามขอพระพรของพระเป็นเจ้าอยู่กับท่านและนำทางชีวิตของท่านเสมอไป… สวัสดีครับ.