สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง 28 มิ.ย. 2015
“ความซื่อสัตย์”
เมื่อพูดถึงความซื่อสัตย์เราคิดถึงอะไร? เชื่อว่าสิ่งที่เราคิดถึงก็คือไม่โกหกตรงไปตรงมาและไม่ขโมยเราจะเรียกการกระทำของคนไม่ซื่อสัตย์ว่า“ขี้โกง”
สังคมที่ล้มเหลวและเกิดปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมายสาเหตุสำคัญประการต้นๆเลยก็คือความไม่ซื่อสัตย์ของคนในสังคมนั้นๆนั่นเองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่เป็นระดับผู้นำผู้มีอำนาจทั้งหลายเราจะเห็นตัวอย่างมากมายในประเทศต่างๆที่ผู้นำไม่ซื่อสัตย์ฉ้อราษฎร์บังหลวงรับสินบาทคาดสินบนทำให้ประเทศชาติไม่เจริญไม่เว้นแม้ในประเทศไทยของเราด้วย
ถ้าจะพูดกันถึงความซื่อสัตย์นั้นเขาจะแยกเป็น2 ลักษณะคือซื่อสัตย์ต่อตนเองและซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น
ความซื่อสัตย์ต่อตนเองนั้นหมายถึงการดำเนินชีวิตด้วยมโนธรรมที่เที่ยงตรงรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนรู้จักคิดพิจารณาและตัดสินเลือกกระทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยเหตุด้วยผลและด้วยความรักเมตตาเช่นในครอบครัวซึ่งประกอบด้วยบิดามารดาลูกหลานและผู้อาวุโสทุกคนต่างก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบของตนผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวก็ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีต้องซื่อสัตย์ต่อครอบครัวลูกๆหลานก็ต้องขยันหมั่นเพียรในการทำหน้าที่ของการศึกษาเล่าเรียนเคารพนบนอบต่อพ่อแม่ปู่ย่าตายายฯลฯความซื่อสัตย์ต่อตนเองนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องกระทำด้วยตัวเองเป็นสำคัญผู้อื่นจะไม่มีส่วนสำคัญเท่าไหร่นัก
ส่วนความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นถือเป็นการดำเนินชีวิตที่จะต้องยุ่งเกี่ยวสัมพันธ์กับคนรอบข้างอยู่ร่วมกันในสังคมการดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ทั้งความคิดคำพูดและการกระทำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความเชื่อถือไว้เนื้อเชื่อใจไม่คดโกงหรือเอารัดเอาเปรียบกัน
โดยปกติแล้วคนที่มีความซื่อสัตย์ในตนเองก็จะซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นด้วยเหมือนกับคนที่บอกว่ารักพระเป็นเจ้าเขาก็จะรักเพื่อนมนุษย์ด้วยไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้ความซื่อสัตย์ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญนี้จะเกิดขึ้นได้ในผู้ใดได้จะต้องมีการฝึกฝนอบรมเหมือนกับคุณธรรมต่างๆเช่นกันถ้าใครปล่อยปะละเลยไม่สนใจกระทำผิดไปเรื่อยๆแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็จะกลายเป็นนิสัยความเคยชินและกลายเป็นคน“ขี้โกง” ไปในที่สุด
เราชื่นชมกับผู้นำของหลายต่อหลายประเทศที่เขาซื่อสัตย์เมื่อทำผิดพลาดก็จะยอมรับผิดและรับโทษที่ตามมาลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ไม่แก้ตัวเราจะพบว่าประเทศชาติเหล่านั้นจึงเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าประเภทคอรัปชั่นโกงกินมีให้เห็นน้อยหรือแทบไม่มีเลยประชาชนของเขาก็ภาคภูมิใจและปฏิบัติตนเป็นคนซื่อสัตย์ไปด้วยเชื่อว่าพวกเราคงอยากเห็นประเทศชาติบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้บ้างซึ่งคิดว่าจะเป็นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้อง“ซื่อสัตย์” และเริ่มจากตัวเราก่อนเริ่มทันทีในครอบครัวเป็นเบื้องแรก… สวัสดีครับ