สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 18 ต.ค. 2015
เราเริ่มนับถอยหลังวันเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม (Year of Mercy) พร้อมๆ กับลุ้นกันอยู่ว่าอาสนวิหารอัสสัมชัญของเราจะพร้อมกับการ “เปิดประตูปีศักดิ์สิทธิ์” หรือไม่ หลังจากที่มีการประชุมของผู้เกี่ยวข้องแล้วผลสรุปออกมาว่าน่าจะมีความพร้อมพอสมควร แม้จะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม
เราจะมีพิธีในวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2015 เหลือเวลาอีกเดือนกว่าๆ เกือบสองเดือน บรรดาผู้รับผิดชอบงานด้านต่างๆ ก็รับปากว่าน่าจะทันเวลา เอาเป็นว่าคงต้องลุ้นกันต่อไป
บัดนี้ตัวพระแท่นหินอ่อนที่จะต้องทาการประกอบขึ้นนั้นก็มาถึงแล้ว กาลังทาการประกอบอยู่ ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะนอกจากพระแท่นแล้วยังมีที่อ่านพระวาจาและอาสนพระสังฆราชก็เป็นหินอ่อนด้วยเช่นกัน งานหลักๆ ที่ต้องอาศัยความชานาญและฝีมือก็เห็นจะได้แก่บริเวณพระแท่นนี่แหละ
และงานที่ต้องลุ้นกันมากหน่อยก็คือ พื้นภายในวัดบริเวณโถงหน้าวัดเนื่องจากหินที่สั่งมานั้นยังไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร แต่ผู้รับผิดชอบก็รับปากว่าทันเวลา อีกเรื่องหนึ่งคือบริเวณลานหน้าวัดและรอบๆ วัด ที่จะต้องปรับใหม่ เพราะระดับต่างกันมาก ทาให้มีปัญหาเวลาฝนตกน้าขังหรือเวลาน้าในแม่น้าหนุนขึ้นมา อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ทุกสิ่งน่าจะดาเนินการไปได้ตามกาหนด
วันนี้ขอพูดถึงเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับวัดของเรานิดหน่อย นั้นคือ อยากพูดถึงเรื่องการ “การแพร่ธรรม” ซึ่งพระศาสนจักรให้เราคิดถึง “วันแพร่ธรรมสากล” (World Mission Day) พูดง่ายๆ ก็คือให้เราหันมาคิดถึงชีวิตของเราที่มีหน้าที่ของการเป็นประกาศก คือเป็นผู้ประกาศให้โลกรู้จักพระเยซูคริสตเจ้า หน้าที่นี้เราได้รับมาโดยทางศีลล้างบาป ซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าที่ 3 ประการหลัก คือ หน้าที่ของสงฆ์ (การที่จะต้องถวายบูชาติดต่อสัมพันธ์กับพระเจ้า) หน้าที่ของประกาศก (ดังที่ได้กล่าวแล้ว) และหน้าที่กษัตริย์ (การที่จะต้องดูแลช่วยเหลือกันและกัน)
สาหรับเราที่เป็นฆราวาส การทาหน้าที่ประกาศกของเรานั้นหมายถึง การเจริญชีวิตเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น เป็นต้นเพื่อนพี่น้องต่างความเชื่อต่างศาสนา ซึ่งมีอยู่มากมายในสังคมรอบข้างของเรา …สวัสดีครับ.