โป๊ปฟรังซิส: “เราต้องเมตตาก่อนตัดสินผู้อื่นเพราะพระเจ้าทรงทำแบบนี้เสมอ”
Posted by editor@popereport.com on 23:16
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิหารนักบุญเปโตรเรียบร้อยแล้วพร้อมเทศน์สอนในมิสซาว่าเราต้องให้ความเมตตาก่อนจะตัดสินใครเพราะเวลาที่พระเจ้าตัดสินพระองค์จะใช้ความเมตตานำทางเสมอทรงรำลึก50 ปีของการปิดสังคายนาวาติกันที่2 ว่าเป็นการพบกันระหว่างพระศาสนจักรกับชายและหญิงของยุคสมัยนอกจากนี้สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่16 ก็มาร่วมพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ด้วยโดยทรงเป็นคนที่สองที่เดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ต่อจากพระสันตะปาปาฟรังซิสส่วนวันอาทิตย์นี้13 ธันวาคมพระสันตะปาปาจะเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ที่มหาวิหารนักบุญจอห์นลาเตรันซึ่งเป็นอาสนวิหารของสังฆมณฑลโรม
ช่วงสายวันอังคารที่8 ธันวาคมที่ผ่านมาสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงถวายมิสซาสมโภชแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมลและเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมณลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตรวาติกันท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า70,000 คนความพิเศษของวันนี้ยังเป็นวันครบ50 ปีของการปิดสังคายนาวาติกันที่2 และยังเป็นวันที่1,000 ในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสอีกด้วย
สำหรับบทเทศน์ประจำมิสซานี้พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนแบบสั้นและกระชับใจความว่า
– ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษนี้คือของขวัญแห่งพระหรรษทานการก้าวผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์หมายถึงการค้นพบพระเมตตาที่ไม่มีวันหมดของพระบิดาผู้ทรงต้อนรับทุกคนและทรงออกไปหาพวกเขาแต่ละคนนี่จะเป็นปีที่พวกเราเติบโตยิ่งขึ้นด้วยความเชื่อในพระเมตตาของพระเจ้า
– นี่คือความจริงเราต้องให้ความเมตตาก่อนจะตัดสินใครและในทุกๆการตัดสินของพระเจ้าจะดำเนินอยู่ในแสงแห่งความเมตตาของพระองค์เสมอ
– การก้าวผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ขอให้เราได้สัมผัสว่าเราเองเป็นส่วนหนึ่งแห่งธรรมล้ำลึกของความรักนี้ขอให้เราเมินเฉยต่อความกลัวและความหวาดระแวงตรงกันข้ามขอให้เราได้สัมผัสกับความชื่นชมยินดีของการได้พบกับพระหรรษทานซึ่งแปรเปลี่ยนทุกสิ่ง
– วันนี้ตามที่เราจะก้าวผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์พวกเรายังอยากจะรำลึกถึงประตูอีกบานหนึ่งซึ่งเมื่อ50 ปีที่แล้วบรรดาผู้นำพระศาสนจักรในการประชุมสังคายนาวาติกันที่2 ได้เปิดขึ้นการครบรอบ50 ปีนี้ไม่ได้เป็นที่จดจำถึงแต่มรดกที่เกี่ยวกับเอกสารของสังคายนาแต่เหนือสิ่งอื่นใดสังคายนาคือการได้พบปะกันนี่คือการพบกันแท้จริงของพระศาสนจักรกับชายและหญิงของยุคสมัยนี่คือการพบกันที่นำโดยฤทธานุภาพของพระจิต
– ปีศักดิ์สิทธิ์กระตุ้นเราให้เปิดกว้างและเรียกร้องเราว่าเราต้องอย่าเพิกเฉยต่อจิตวิญญาณของสังคายนาวาติกันที่2 นี่คือจิตวิญญาณของชาวสะมาเรียผู้ใจดีดังที่บุญราศีเปาโลที่6 ได้ระบุไว้ตอนสรุปสังคายนา
– ขอให้การเดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราในวันนี้ทำให้เราเปี่ยมด้วยความเมตตาของชาวสะมาเรียผู้ใจดีด้วย
หลังจากพิธีรับศีลมหาสนิทเสร็จแล้วพระสันตะปาปาทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิหารนักบุญเปโตรโดยมีสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่16 มาร่วมพิธีด้วยซึ่งพระสันตะปาปากิตติคุณทรงเป็นคนที่สองที่เดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ต่อจากพระสันตะปาปาฟรังซิส
ในส่วนของการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวพระสันตะปาปาทรงกล่าวกับสัตบุรุษอีกครั้งว่า”ความเมตตาคือหัวใจสำคัญของพระวรสารนี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการบอกกับเราทุกคนว่าเราต้องมีเมตตากับเพื่อนมนุษย์”
หลังการภาวนาจบลงพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเชิญสัตบุรุษทุกคนร่วมกันปรบมือให้ดังที่สุดเพื่อทักทายและให้กำลังใจแด่สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่16 ด้วย
อนึ่งวันอาทิตย์ที่13 ธันวาคม2015 พระศาสนจักรคาทอลิกกำหนดให้อาสนวิหารทุกสังฆมณฑลทั่วโลกเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันโดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ที่มหาวิหารนักบุญจอห์นลาเตรันซึ่งเป็นอาสนวิหารของสังฆมณฑลโรมด้วย