“ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา สัปดาห์พระเมตตา…จงรัก ศรัทธา และเมตตาอย่างพระเยซูเจ้า”
บรรดาอัครสาวกทำเครื่องหมายอัศจรรย์และปาฏิหาริย์หลายประการในหมู่ประชาชนผู้มีความเชื่อทุกคน มักจะมาชุมนุมกันที่เฉลียงซาโลมอน…ผู้มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ…ประชาชนนำผู้ป่วยมาที่ลานสาธารณะวางไว้บนที่นอนและแคร่อย่างน้อยเพื่อให้เงาของเปโตรที่เดินผ่านมาทอดปกคลุมผู้ป่วยบางคน ประชาชนจากเมืองต่างๆรอบกรุงเยรูซาเล็มมาชุมนุมกันนำผู้ป่วยและผู้ที่ถูกปีศาจชั่วร้ายทรมานมาที่นั่นด้วยทุกคนได้รับการรักษาให้หาย (เทียบกจ5:12-16)
เมื่อพูดถึง“พระเมตตา” “ความรักความเมตตา” ย่อมหนีไม่พ้นที่จะพูดถึง“ผู้มอบ-ส่งความเมตตาให้” และลืมไม่ได้เลย คือผู้ยากไร้-ขาด“ผู้ต้องการความรักความเมตตา” ผู้คนเมื่อได้ยินเรื่องราวและโอกาสที่จะได้รับการเยี่ยวยารักษาที่จะหายจากความเจ็บปวดเจ็บป่วยที่ทรมานมาแสนนานเขายอมทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้รับ…ที่สำคัญคือ“ทุกคนได้รับการรักษาให้หาย”
ปัจจุบัน พูดถึงเรื่อง“การรักษา” เราจะคิดถึงอะไรคิดถึงใครเป็นอันดับแรก “โรงพยาบาลไหน!!!” “หมออะไร…เฉพาะทางเรื่องไหน!!!” “แพงมากไป…หรือไม่สู้ราคาไหวไหม!!!” “เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยได้ผลไหม!!!” เหล่านี้ไม่ใช่หรือที่เราคุยกันสนใจกันเมื่อยามที่เราเองหรือญาติพี่น้องเพื่อนมิตร อยู่ในภาวะขาดแคลนหรือเจ็บป่วยเราสนใจตัวบุคคลตัวผู้ป่วยผู้เจ็บปวดทั้งกายใจมากเพียงใดว่า“เขาถูกกรีดกันออกนอกสังคมนอกครอบครัว เขาถูกทอดทิ้งถูกเบียดเบียนให้ต้องเจ็บปวดและเจ็บป่วยด้วยลำพัง”
ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่ เพราะกลัวชาวยิวพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางตรัสกับเขาทั้งหลายว่า“สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”…เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า“สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ตรัสดังนี้แล้วพระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลายตรัสว่า“จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยน20:19-23)
ครั้งหนึ่ง ระหว่างเดินดูของและเลือกซื้อของ หันไปเห็นของชิ้นเล็กบ้างใหญ่บ้าง เมื่อเห็นของชิ้นนั้นทำให้คิดถึงคนนั้นที่เขาชื่นชมของแบบนี้ เมื่อเห็นของชิ้นนี้ก็คิดถึงคนนี้ที่ชื่นชอบของชิ้นนี้และสีเดียวกันนี้ และเราตัดสินใจซื้อของพร้อมตั้งใจนำไปฝากไปเยี่ยมเพื่อน-มิตรเหล่านั้น
ความรัก-พระเมตตาของพระเยซูเจ้า ไม่ได้เริ่มเมื่อตอนที่เราไปถึงตัวเพื่อนพี่น้องของเราและได้สวมกอดมอบความรัก หากแต่ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหัวใจของเราเปิดรับความรักของพระเปิดออกไปสู่เพื่อนพี่น้องของเรา ใจเราคิดถึงเขาเมื่อเราพบกับสิ่งของหรือสถานที่สถานการณ์ใดๆ ใจเราระลึกได้คิดและตั้งใจมอบความรักมอบสันติสุขให้กันและกัน
ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่ เพราะกลัวชาวยิวพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลางตรัสกับเขาทั้งหลายว่า“สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”…เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า“สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” ตรัสดังนี้แล้วพระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลายตรัสว่า“จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัยท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยน20:19-23)
ให้เราเปิดใจรับองค์พระจิตเจ้าปล่อยให้พระองค์ทรงนำทางเราเพื่อที่เราจะเปิดใจมองกันและกัน คิดถึงกันและกัน ปล่อยวางและอภัยกัน มอบสันติสุขของพระคริสตเจ้าให้กันและกัน เพราะพระเยซูเจ้าทรงส่งเราไปทำเช่นนี้เอง…“สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิดพระบิดาทรงส่งเรามาฉันใดเราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”