จำพระองค์ได้…รักพระองค์ไหม?
…ไม่มีศิษย์คนใดกล้าถามว่า“ท่านเป็นใคร” เพราะรู้ว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเยซูเจ้าทรงเข้ามาหยิบขนมปังแจกให้เขาแล้วทรงแจกปลาให้เช่นเดียวกัน นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่พระเยซูเจ้าทรงแสดงพระองค์แก่บรรดาศิษย์หลังจากที่ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย…พระองค์ตรัสถามเป็นครั้งที่สามว่า“ซีโมนบุตรของยอห์นท่านรักเราไหม” เปโตรรู้สึกเป็นทุกข์ที่พระองค์ตรัสถามตนถึงสามครั้งd ว่า“ท่านรักเราไหม” e เขาทูลตอบว่า“พระเจ้าข้าพระองค์ทรงทราบทุกสิ่งพระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า“จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด” (ยน 21:12-14,17)
จำพระองค์ได้…เวลาศิษย์-บรรดาอัครสาวก นำโดยเปโตร ได้พบเห็นเหตุการณ์ ได้พบเห็นพระเยซูได้มาหา ได้พูด ได้กระทำสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคย ได้พบเมื่อตอนพระองค์มีชีวิตอยู่กับพวกเขา. เขาก็จำพระองค์…จำพระเยซูได้. แล้วเราละเราพบพระเยซูในชีวิตประจำวัน. เราพบเจอและจำพระองค์ได้บ้างไหมในชีวิตพี่น้องรอบข้าง
จำว่าพระองค์เคยทำอะไร…เชื่อเลยว่า ภาพเหตุการณ์ความรักความเมตตาที่พระเยซูได้ทำได้มอบให้กับผู้คนมากมายหลายหลากเหตุการณ์นั้น ยังคงประทับใจอยู่ในหัวใจพวกเขา. เมื่อพระเยซูช่วยหญิงที่จะถูกทุ่มด้วยหิน. เมื่อพระองค์ปลุกลาชาลัส หรือเมื่อพระองค์ต้อนรับคนบาป. เราล่ะเราจำพระองค์ตอนใดบ้างตอนพระองค์เต็มไปด้วยผู้คนนับหน้าถือตาแล้วหนีพระองค์ตอนถูกจับถูกฆ่า. หรือเราจำพระองค์ยามพระองค์รักและเมตตาและยอมมอบให้ได้แม้ชีวิตแม้ตนเองจะเดือดร้อน
เปโตรและบรรดาอัครสาวกตอบว่า“เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์ พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าที่ท่านทั้งหลายประหารชีวิตโดยตรึงบนไม้กางเขน” นั้นกลับคืนพระชนมชีพ…บรรดาอัครสาวกออกจากสภาซันเฮดรินมีความยินดีที่ได้รับเกียรติที่ถูกสบประมาทเพราะพระนามพระเยซูเจ้า (กจ 5:29-30,41)
จำพระองค์ได้จริงๆ…เมื่อบรรดาศิษย์-อัครสาวก นำโดยเปโตรจำพระเยซูเจ้าได้. เขาก็ออกจากตนเอง ออกจากที่ที่ปลอดภัยและอบอุ่น ออกไปเพื่อมอบความรักเมตตาให้พี่น้องรอบข้างอย่างที่พระอาจารย์ได้เคยทำ. ประกาศความรักของพระองค์แม้จะถูกเบียดเบียนก็พร้อมเผชิญ
ทุกครั้งที่เราประกาศความรักของพระองค์ด้วยมอบความรักเมตตา ดูแลเอาใจใส่กัน ปล่อยวางอภัยกันใจกว้างแบ่งปันกันเหมือนดังที่พระองค์ได้เคยพูดเคยสอนเคยทำเป็นแบบอย่าง…เราจำพระองค์ได้…จำได้ว่าพระองค์เคยทำอะไร…เราจำพระองค์ได้เรารักพระองค์จริงๆ.