อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลปัสกา
พระวาจาประจำ วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2559
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น ยน.13.31-33ก,34-35
เวลานั้นเมื่อยูดาสออกไปแล้วพระเยซูเจ้าตรัสว่า
“บัดนี้บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์
และพระเจ้าทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในบุตรแห่งมนุษย์ด้วย
ถ้าพระเจ้าทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในบุตรแห่งมนุษย์
พระเจ้าจะทรงให้บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในพระองค์ด้วย
และจะทรงให้บุตรแห่งมนุษย์ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในทันที
ลูกทั้งหลายเอ๋ยเราจะอยู่กับท่านอีกไม่นาน
เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลายให้ท่านรักกัน
เรารักท่านทั้งหลายอย่างไรท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด
ถ้าท่านมีความรักต่อกันทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา”
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวกกจ. 14.21-27
ในครั้งนั้นเปาโลและบารนาบัสประกาศข่าวดีที่เมืองเดอร์บีได้ศิษย์เป็นจำนวนมากแล้วจึงกลับไปเมืองลิสตราเมืองอิโคนียุมและเมืองอันทิโอกแห่งแคว้นปิสีเดียเขาทั้งสองคนให้กำลังใจบรรดาศิษย์ตักเตือนให้มั่นคงอยู่ในความเชื่อพูดว่า“พวกเราจำเป็นต้องฟันฝ่าความทุกข์ยากเป็นอันมากจึงจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าได้”
เปาโลและบารนาบัสแต่งตั้งผู้อาวุโสในกลุ่มคริสตชนแต่ละกลุ่มเขาอธิษฐานภาวนาพร้อมกับจำศีลอดอาหารแล้วฝากบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเขาทั้งหลายมีความเชื่อท่านทั้งสองคนเดินทางผ่านแคว้นปิสิเดียมาถึงแคว้นปัมฟีเลียประกาศพระวาจาที่เมืองเปอร์กาแล้วจึงไปยังเมืองอัตตาเลียจากนั้นเขาลงเรือกลับไปยังเมืองอันทิโอกแห่งซีเรียก่อนที่เขาทั้งสองจะออกเดินทางจากเมืองอันทิโอกบรรดาคริสตชนเคยฝากเขาไว้กับพระหรรษทานของพระเจ้าเพื่องานที่เขาเพิ่งกระทำสำเร็จ
เมื่อไปถึงเปาโลและบารนาบัสก็เรียกประชุมกลุ่มคริสตชนเล่าทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำโดยผ่านตนว่าพระเจ้าทรงเปิดประตูแห่งความเชื่อให้คนต่างศาสนา
บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์ วว. 21.1-5ก
ข้าพเจ้ายอห์นได้เห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิมสูญหายไปไม่มีทะเลอีกต่อไปข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว
ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระบัลลังก์ว่า“นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์พระองค์จะทรงพำนักอยู่ในหมู่เขาเขาจะเป็นประชากรของพระองค์และพระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าของเขาทรงเป็น“พระเจ้าสถิตกับเขา” พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขาจะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้วพระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์ตรัสว่า“ดูซิเราทำทุกสิ่งขึ้นใหม่”