พระเยซูแห่งประวัติศาสตร์ และพระเยซูแห่งความเชื่อ
Historical Jesus and Jesus of Faith
อีก 1 สัปดาห์ เราก็จะทำการสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ สำหรับหลายคนคิดถึงเรื่องการเสด็จสู่สวรรค์ในความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์ แบบคนที่วันหนึ่งตัวอยู่กับเราและอีกวันหนึ่ง ตัวผู้ที่ที่อยู่นั้นก็จากเราไป ไม่เห็นกันอีก
นั่นคือวิธีคิดแบบมนุษย์
แต่สำหรับพระเยซูเจ้า พระองค์มีโหมด(Mode) หรือรูปแบบการประทับอยู่ 2 รูปแบบ คือ ก่อนการกลับคืนชีพ และหลังการกลับคืนชีพ
ก่อนการกลับคืนชีพ คือ ระหว่างการเจริญชีวิต 33 ปีในโลกก่อนถูกตรึงกางเขน พระองค์ทรงประทับอยู่ในรูปแบบของมนุษย์เต็มรูปแบบ แต่หลังการสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์ชีพแล้ว การประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า ก็เปลี่ยนไปแบบที่ท่านนักบุญเปาโลเรียกก็คือ การประทับอยู่แบบ พระกายทิพย์ คือ ทรงเป็นมนุษย์ที่ร่างกายถูกทำให้เปลี่ยนแปลงด้วยพลังอำนาจแห่งการกลับคืนพระชนม์ชีพ ดังนั้นหลังจากกลับคืนพระชนม์ชีพพระองค์จะปรากฏพระองค์เมื่อไรก็ได้ เข้าห้องโดยไม่ต้องเปิดประตู ฯลฯ
การเสด็จกลับสู่สวรรค์คือการปิดฉากการประทับอยู่และปรากฏกายแบบมนุษย์ และเปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็นการประทับอยู่แบบพระกายทิพย์ และยังคงเป็นการประทับอยู่ในโลกต่อไป มิได้จากไปไหนดังนั้นพระองค์จึงมักกล่าวแก่บรรดาอัครสาวกบ่อยๆเป็นการยืนยันว่า “เราจะอยู่กับพวกท่านเสมอไปจนวันสิ้นพิภพ” (มัทธิว 28:20) และนี่คือโหมด(Mode) การประทับอยู่แบบพระกายทิพย์
ดังนั้นในพระวรสารวันนี้พระองค์จึงทรงแนะวิธีที่เราจะทำให้พระองค์พร้อมทั้งพระบิดา และพระจิตอยู่กับพวกเราตลอดเวลาคือ “ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขา จะทรงพำนักอยู่กับเขา”
เช่นกันในประโยคสุดท้ายของพระวรสารมัทธิว บทที่ 28 ข้อ 20 ดังที่ได้กล่าวถึงเมื่อสักครู่นี้ พระเยซูทรงสั่งไว้ว่า “จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวัน ตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”
นี่คือวิธีการที่เราจะได้อยู่กับพระเยซูเจ้าตลอดเวลา พระองค์ไม่ได้ไปไหน แต่เราต้องรู้จักวิธีทำให้พระองค์อยู่กับเราตลอด 24 ชั่วโมง คือ การปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่พระองค์สอนเรา และต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้พระเยซูเจ้าอยู่กับเราตลอดเวลา
และนี่คือ พระเยซูแห่งความเชื่อ(Jesus of Faith) หรือ พระเยซูแห่งความเชื่อฟัง แต่เป็นความเชื่อฟังของเราที่จะทำให้พระองค์อยู่กับเรา