สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 1พฤษภาคม 2559
วันที่1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันฉลองนักบุญยอแซฟกรรมกรซึ่งถือเป็นวันฉลองท่านอีกวันหนึ่งนอกเหนือจากวันที่19 มีนาคมความหมายสำหรับวันฉลองนักบุญยอแซฟกรรมกรก็คือฉลองท่านในฐานะเป็นองค์อุปถัมภ์ของผู้ใช้แรงานหรือที่เราเรียกว่า“กรรมกร” นั่นเองเพราะท่านนักบุญยอแซฟมีอาชีพเป็นกรรมกรคือเป็นช่างไม้ดูเหมือนว่าทั่วโลกก็จะถือเอาวันที่1 พฤษภาคมนี้เป็น“วันกรรมกร”ด้วยเหมือนกันส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกันกับท่านนักบุญยอแซฟหรือไม่เพียงใดนั้นคงจะแตกต่างกันออกไปเพราะคนทั่วโลกที่ไม่รู้จักนักบุญยอแซฟก็มีมากด้วย
สำหรับเราวันนี้จึงมีความหมายเป็นพิเศษเพราะเรารู้ว่าท่านนักบุญยอแซฟเป็นใครมีความสำคัญอย่างไรในประวัติศาสตร์แห่งความรอดคงไม่ต้องอธิบายกันอีกหากแต่อยากจะแบ่งปันเรื่องราวการเป็นองค์อุปถัมภ์ของกรรมกรของท่านมากกว่า
เมื่อพูดถึงผู้ใช้แรงงานหรือกรรมกรความคิดของคนทั่วๆไปก็จะนึกถึงบรรดาคนงานที่ทำงานใช้แรงใช้กำลังเป็นสำคัญเช่นคนงานก่อสร้างคนงานตามโรงงานต่างๆทั้งสาวโรงงานหนุ่มโรงงานและจะหมายถึงคนที่มีอาชีพเกษตรกรรมเช่นชาวไร่ชาวสวนชาวนาทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำและรวมไปถึงบรรดาช่างต่างๆเช่นช่างเหล็กช่างไฟฟ้าช่างแอร์ช่างไม้และอีกหลายต่อหลายช่างเราเรียกพวกเขาอีกอย่างหนึ่งว่า“ลูกจ้าง”
บุคคลกลุ่มนี้จะถูกมองว่าเป็นคนที่มีฐานะหาเช้ากินค่ำบางครั้งก็หาเช้าไม่พอกินถึงค่ำและเป็นคนไม่มีความรู้อะไรมากมายต้องอาศัยมือในการทำงานจึงเรียกว่า“กรรมกร”ที่มาจากคำว่ากรรม+กร กรรมคือการกระทำ กรคือมือ แปลตรงตัวเลยว่าผู้ที่ทำงานด้วยมือก็น่าจะใช่ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลกก็น่าจะได้
ปัจจุบันจึงมีการให้ความสำคัญกับชนกลุ่มนี้พยายามที่จะเรียกร้องให้มีการดูแลช่วยเหลือพวกเขาให้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างจึงมีสหภาพแรงงานมีกระทรวงแรงงานมีการออกกฎหมายมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาอย่างไรก็ตามเรายังพบกับความไม่เป็นธรรมต่อพวกเขาเสมอๆในรูปแบบต่างๆ
สำหรับพวกเราวันฉลองนี้จึงน่าจะเป็นวันที่ให้เราทบทวนดูชีวิตของเราด้วยไม่ว่าเราจะเป็น“นายจ้าง”หรือ“ลูกจ้าง”กล่าวคือเราต้องมีความยุติธรรมมีเมตตาถ้าหากเราเป็นนายจ้างต้องพิจารณาว่าเราให้ความเป็นธรรมให้ความรักความเมตตาต่อลูกจ้างของเราเพียงพอหรือไม่หรือเราใช้งานเขาจนเกินกำลังแต่ค่าตอบแทนกับไม่เหมาะสมกับการงานที่เขาทำให้เราเช่นกันถ้าหากเราเป็นลูกจ้างก็ต้องพิจารณาด้วยว่าเราให้ความยุติธรรมกับนายจ้างของเราเพียงพอไหมเราซื่อสัตย์รับผิดชอบทำงานด้วยความเอาใจใส่มากน้อยแค่ไหนหรือเราขี้เกียจอู้งานหรือไม่ซื่อสัตย์อย่างนี้เราก็ผิดยุติธรรมด้วยเหมือนกัน
สรุปแล้ววันนี้ขอท่านนักบุญยอแซฟเสนอวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายจ้างหรือลูกจ้างขอให้มีความรักความเมตตาต่อกันและกันทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด…. สวัสดีครับ.