ข้อคิดวันสมโภชพระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
ลก 1:39-56…วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า …พระองค์ทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น…
ในวันนี้พระศาสนจักรถวายเกียรติแด่สาวใช้ผู้สุภาพต่ำต้อยแห่งนาซาเร็ธ เพราะผ่านทางพระนาง โลกได้ต้อนรับองค์พระผู้ไถ่ เราคริสตชนต่างมีความชื่นชมยินดีที่พระนางได้มีส่วนในพระเกียรติมงคลของพระบุตรของพระนางในเมืองสวรรค์ และจากเมืองสวรรค์ พระนางทรงกำลังเฝ้าดูเราอยู่…ให้เราได้หันกลับมาหาพระเจ้า พระผู้ซึ่งพระนางได้ทรงบอกกับเราว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เปี่ยมด้วยความรักและเมตตาสงสาร
ข้อคิด…พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950 ในพระสมณสาสน์ “Munificentissimus Deus” ของพระองค์ ได้ประกาศว่า “พระนางพรหมจารีมารีย์ พระมารดานิรมลของพระเจ้า เมื่อได้จบชีวิตบนแผ่นดินของพระนางแล้ว ก็ได้ถูกยกขึ้นสู่เกียรติมงคลแห่งเมืองสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ”
นี่เป็นความเชื่อศรัทธาอันยาวนานเป็นศตวรรษๆของบรรดาคริสตชน อันเป็นคำอธิบายการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์อย่างสรุปได้ใจความเป็นอย่างดี
ไม่มีการอ้างอิงโดยตรงของพระคัมภีร์ในเรื่องนี้ แต่เป็นความเชื่อศรัทธาของบรรดาคริสตชนที่ตั้งอยู่บนฐานของพระคัมภีร์ เพราะถ้าหากว่าการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า เป็นข้อพิสูจน์ถึงพระเทวภาพของพระองค์ เช่นเดียวกัน การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า ก็เป็นคำมั่นสัญญาถึงชัยชนะของเรามนุษย์ที่มีต่อบาป ต่อผีปีศาจและต่อความตาย…เพราะถ้าพระคริสต์มิได้กลับคืนพระชนมชีพ การเทศน์สอนของนักบุญเปาโลและความเชื่อของเราคริสตชน ก็จะเป็นหมัน ไม่มีประโยชน์อันใด…ชีวิตใหม่ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงนำมาให้เรามนุษย์นั้น เป็นชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงตัวมนุษย์ทั้งหมด คือทั้งกายและวิญญาณ นั่นก็คือ ร่างกายของมนุษย์ก็จะมีส่วนในชัยชนะของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีเหนือความตายด้วย…
ชีวิตใหม่ที่ว่านี้ คือชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน มีพระเจ้าสถิตอยู่กับชีวิตนั้น และนี่ก็คือชีวิตของพระนางพรหมจารีมารีย์ ทั้งบนโลกนี้และหลังจากจบชีวิตบนโลกนี้แล้วด้วย อันเป็นชีวิตที่ได้รับเกียรติมงคลทั้งกายและวิญญาณ
เกือบประมาณร้อยปีก่อนหน้านี้ที่พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950 ได้ประกาศเป็นข้อความเชื่อว่า “พระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ”…พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9 ในพระสมณสาสน์ “Ineffabilis Deus” ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เป็นข้อความเชื่อว่า “พระนางมารีย์เป็นผู้ปฏิสนธินิรมล” ในวันที่ 8 ธันวาคม 1854 นั้น พระองค์ทรงต้องการที่จะบอกกับเราคริสตชนทั้งหลายว่าแม่พระเหมือนกับองค์พระเยซูเจ้าตั้งแต่ปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา คือพระนางไม่มีบาป เพราะถ้าหากว่าบาปและโทษของบาป ก่อให้เกิดความตายและการผุพังเปื่อยเน่าของร่างกาย และทำให้การกลับคืนชีพของร่างกาย ต้องล่าช้าออกไป ดังนั้นใครก็ตามที่ไม่มีบาปตั้งแต่เกิดเหมือนองค์พระคริสตเจ้า ก็จะไม่มีการล่าช้าของการกลับคืนชีพของร่างกายของเขาผู้นั้นด้วย และผู้นั้นก็คือพระนางมารีย์นั่นเอง
พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 12 ได้ทรงกล่าวย้ำว่าเหตุผลทางเทววิทยาสำหรับการได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์ ก็คือการเป็นพระมารดาของพระเจ้าของพระนาง เพราะพระบิดาเจ้าได้ทรงเลือกสรรพระนางมารีย์ผู้นิรมล ปราศจากบาป ให้เป็นพระมารดาของพระบุตรของพระองค์ เพราะพระนางมีชีวิตที่ชิดสนิทสัมพันธ์กับองค์พระบุตรอย่างที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระนางทรงให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการไถ่บาปของมนุษยชาติกับองค์พระบุตร
ส่วนเรื่องที่ว่าแม่พระได้สิ้นใจหรือว่าไม่ต้องสิ้นใจ/ไม่ต้องตายนั้น ก็ยังเป็นคำถามที่ยังถามกันไม่รู้จักจบสิ้น บรรดานักบุญปิตาจารย์ส่วนใหญ่ เช่น นักบุญออกัสติน นักบุญอัมโบรส นักบุญเยโรม และบรรดาคริสตชนส่วนใหญ่ในศตวรรษที่ห้า ต่างก็เชื่อว่าแม่พระได้สิ้นใจจริงๆ ด้วยเหตุผลง่ายๆก็คือ เพราะแม่พระเป็นสมาชิกคนหนึ่งของมนุษยชาติและแม่พระจะต้องเหมือนกับองค์พระบุตรในทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งในความตายด้วย แต่ว่าการสิ้นใจของแม่พระนั้น ไม่เหมือนกับความตายของมนุษย์คนอื่นๆที่ได้รับผลอันนี้เนื่องจากโทษของบาป โดยพระบิดาเจ้ามีพระประสงค์ให้พระนางได้มีส่วนในการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าเลยทันที เพราะพระนางมารีย์ทรงเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระนางไม่มีแม้แต่เงาของบาป
การที่พระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนี้ สอนเราคริสตชนทุกๆคนให้ตระหนักและเข้าใจว่าโลกใบนี้มิใช่เป็นที่พักพิงหรือบ้านอันถาวรของเรา แต่เป็นที่พำนักในสรวงสวรรค์ต่างหาก ที่ซึ่งเราจะพำนักอยู่ตลอดไปพร้อมกับพระมารดาและพระบุตรของพระนาง นั่นก็คือ ทั้งวิญญาณและร่างกายของเรา ที่จะต้องเน่าเปื่อยผุพังไปพร้อมกับการตายตามกฎของธรรมชาตินั้น จะได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่เพื่อไปเสวยความบรมสุขตลอดนิรันดรในสรวงสวรรค์ แต่สำหรับพระนางแล้ว สิทธิพิเศษของพระนางและการมีส่วนร่วมในหลักการแห่งการร่วมในโชคชะตากับองค์พระบุตรของพระนาง บันดาลให้เกียรติมงคลแห่งมนุษยภาพของพระนาง ได้สำเร็จไปแล้วก่อนถึงเวลานั้น ทว่าสำหรับเราคริสตชนที่มีชีวิตที่เปี่ยมด้วยพระหรรษทานและพระคริสตเจ้าทรงเป็นชีวิตของเราจริงๆ ร่างกายและวิญญาณของเราก็จะได้รับเกียรติมงคลเช่นเดียวกับของพระแม่ แม้ว่าจะช้าไปบ้างก็ตาม
ขอให้การสมโภชพระนางมารีย์ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณนี้ ได้บันดาลให้เราได้มีกำลังใจในการเจริญชีวิตเป็นลูกที่ดี ที่ศักดิ์สิทธิ์และที่บริสุทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าเมื่อความตายมาถึงและเราจะต้องลาจากโลกนี้ไป เราจะได้ไปเสวยความบรมสุขตลอดนิรันดรในสวรรค์ ณ ที่ซึ่งพระแม่กำลังรอคอยลูกๆของพระนางอยู่
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์