ข้อคิดอาทิตย์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา ปี B
ยน6: 41-51…เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป…ผู้ที่กินปังนี้แล้วจะไม่ตาย…และปังที่เราจะให้นี้คือเนื้อของเราเพื่อให้โลกมีชีวิต…
เราเป็นประชากรของพระเจ้าซึ่งกำลังเดินทางแห่งชีวิตในความเชื่อมุ่งไปสู่แผ่นดินพระสัญญาแห่งชีวิตนิรันดรระหว่างหนทางแห่งชีวตนี้เราจะต้องเผชิญกับความสงสัยและความทุกข์ยากลำบากต่างๆ…องค์พระเยซูเจ้าซึ่งเรามาชุมนุมกันในพระนามของพระองค์มิใช่เป็นเพียงแต่เป้าหมายของการเดินทางแห่งชีวิตของเราเท่านั้นแต่พระองค์ยังเป็นเพื่อนร่วมเดินทางแห่งชีวิตของเราด้วย…
ข้อคิด…ท่านประกาศกเอลียาห์ซึ่งเป็นประกาศกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพระธรรมเก่าและเป็นแชมเปี้ยนในการประกาศยืนยันถึงพระยาเวห์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว…แม้จะมีการกล่าวขานกันว่าท่านจะกลับมาก่อนในยุคของพระเมสสิยาห์ แต่ถึงกระนั้นในบทอ่านที่หนึ่ง (1 พกษ 19: 4-8)…เราจะได้เห็นความอ่อนแอตามประสามนุษย์ของท่าน ความหมดอาลัยตายอยากและความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในตัวท่าน ท่านรู้สึกไม่สบายใจและเหนื่อยหน่ายต่อการเป็นประกาศกของพระเจ้า ท่านอยากจะโยนผ้าขาวยอมแพ้และเริ่มจะมีความสงสัยในตัวเองว่า “ข้าพเจ้าก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าบรรพบุรุษของข้าพเจ้า”…จนต้องหนีเข้าไปอยู่ในถิ่นทุรกันดารเพื่อให้พ้นหูพ้นตาของคนอื่นๆ…เช่นเดียวกับที่ชนชาวอิสราเอลในยุคก่อนที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วย “ปังจากสวรรค์” จากพระยาเวห์ ท่านประกาศกเอลียาห์หลังจากที่ได้รับการฟื้นฟูด้วยอาหารจากทูตสวรรค์แล้ว ก็ทำให้ท่านมีพละกำลังขึ้นใหม่ จึงได้เดินทางต่อไปโดยมุ่งสู่ภูเขาโฮเร็บ “ภูเขาของพระเจ้า”
ส่วนในพระวรสาร (ยน 6: 41-51)…พระเยซูเจ้าได้ทรงประกาศว่าพระองค์เป็น “ปังซึ่งเสด็จลงมาจากสวรรค์” ปังที่ว่านี้ ก่อนอื่นจะหมายถึง “การไขแสดง” ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงเผยแก่ประชาชน จากนั้นก็จะหมายถึง “ศีลมหาสนิท”
เป็นอะไรที่ได้ทำให้จิตวิญญาณของท่านประกาศกเอลียาห์ ตกต่ำถึงเพียงนี้?…ท่านได้ทำสงครามสู้รบปรบมือกับการนับถือพระเท็จเทียมซึ่งได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในสมัยของท่านและได้กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างท่านกับราชินีเยเซเบลซึ่งต้องการจะปลิดชีวิตของท่าน จนทำให้ท่านต้องหนีเข้าไปในถิ่นทุรกันดารหรือหนีเข้าป่าไปเลย…ณ ที่นี้ ท่านได้ก้มกราบลงและได้อธิษฐานต่อพระเจ้าให้พระองค์ได้ทรงยกชีวิตของท่านไปเสีย เพื่อว่าความทุกข์ยากลำบากต่างๆของท่านจะได้จบสิ้นลงเสียที
ท่านประกาศกได้สูญเสียกำลังใจ…เมื่อเราสูญเสียกำลังใจ เราก็จะสูญเสียท่อธารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งการขับเคลื่อนในการทำสิ่งดีๆเพื่อพระเจ้าและเพื่อเพื่อนพี่น้องไปด้วย
แม้กระทั่งบุคคลที่สำคัญๆต่างก็รู้จักช่วงเวลาแห่งความอ่อนแอ ความเหนื่อยอ่อนและความหมดหวัง ท่านเหล่านี้ต่างก็มีความรู้สึกว่าชีวิตนั้นยากลำบาก และเป็นการยากที่จะนำชีวิตกลับคืนสู่สภาพปรกติ นี่เป็นความรู้สึกของเรามนุษย์โดยทั่วๆไปที่มีข้อจำกัดต่างๆ และพระเยซูเจ้าเองก็ได้มีประสบการณ์เช่นที่ว่านี้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสวนเก็ธเสมานี
พวกเราหลายๆคนรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะยอมรับข้อจำกัดตามประสามนุษย์ของเราแต่ละคน พวกเราต้องการที่จะเป็นผู้เข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา พวกเราต่างก็คิดว่าเป็นการเสียหน้า ถ้าหากว่าพวกเราจะแสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนแอและความหวาดกลัว แต่ว่าจริงๆแล้วอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะคนอื่นก็อยากและพร้อมที่จะช่วยคนที่ยอมรับข้อจำกัดของตนและพร้อมที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
การที่ท่านประกาศกเอลียาห์ได้รับพละกำลังกลับคืนมาและสามารถเดินทางต่อไปจนถึงภูเขาโฮเร็บ “ภูเขาของพระเจ้า” นั้น…พละกำลังใหม่นี้ มิใช่ท่านได้รับจากอาหารและเครื่องดื่มจากทูตสวรรค์เท่านั้น แต่ที่สำคัญท่านได้รับจากความมั่นใจว่าพระเจ้าได้ทรงอยู่กับท่าน และเป็นความมั่นใจที่ว่านี้ที่ได้ให้ชีวิตใหม่แก่ท่านและทำให้ท่านมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป
พวกเราก็เช่นเดียวกันซึ่งกำลังเดินทางชีวิตมุ่งสู่ “ภูเขาของพระเจ้า”อันเป็น “ชีวิตนิรันดร์”เราต่างก็มีประสบการณ์ขณะเวลาแห่งความอ่อนแอบนหนทางเดินนั้น เราต้องการความช่วยเหลือทั้งจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและจากพระเจ้าด้วย…สิ่งที่จะช่วยพยุพยุงเราได้เป็นอย่างดีนั้น จะอยู่ที่เราจะต้องมีจิตสำนึกถึงการสถิตอยู่ของพระเจ้ากับเราและถึงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเราแน่นอนเราต้องการปัง/อาหารสำหรับการเดินทางชีวิตของเราแต่ละคน แต่ว่าปัง/อาหารทั่วๆไปนั้น ไม่เป็นการเพียงพอ เราต้องการปัง/อาหารซึ่งพระเยซูเจ้าทรงประทานให้ เป็น “ปังแห่งศีลมหาสนิท” “ปังแห่งพิธีบูชาขอบพระคุณ” “ปังแห่งพระวาจา”
“ศีลมหาสนิท” เคยได้รับการเรียกขานว่าเป็น “ศีลเสบียง” นั่นก็คือ เป็น“ปัง/อาหารสำหรับการเดินทาง(แห่งชีวิต)” คล้ายๆกับอาหารที่ได้รับการแบ่งปันสำหรับพวกทหารในเวลามีศึกสงคราม แต่ว่าในเวลานี้ “ศีลเสบียง” ได้รับการจัดเตรียมไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ “ผู้กำลังใกล้จะตาย” นั่นก็หมายความว่าเป็น “ปัง/อาหารที่จะให้ชีวิตนิรันดร” สำหรับช่วงสุดท้ายของการเดินทางชีวิตบนโลกใบนี้ของคริสตชน แต่ว่า “ศีลมหาสนิท” และ “พิธีบูชาขอบพระคุณ”จะหมายถึงการสนับสนุนตลอดการเดินทางชีวิตของคริสตชน
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์