ข้อคิดอาทิตย์ที่ยี่ 21 เทศกาลธรรมดา ปี B
ยน6: 60-69…ศิษย์หลายคนเปลี่ยนใจไม่ติดตามพระเยซูเจ้าอีกต่อไป…พระเจ้าข้าพวกเราจะไปหาใครเล่า?…พระองค์มีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร…
ในพระวรสารเราแลเห็นว่าคนจำนวนไม่น้อยได้เปลี่ยนใจไม่ติดตามพระเยซูเจ้าอีกต่อไป…เช่นเดียวกันที่ในขณะนี้ก็อาจจะยังมีคริสตชนอีกจำนวนหนึ่งในพวกเราที่กำลังจะเปลี่ยนใจไม่ยอมติดตามพระองค์หรือติดตามพระองค์อย่างเสียไม่ได้…แต่ว่าโดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้าที่เราส่วนใหญ่ยังติดตามพระองค์อยู่และกำลังมาชุมนุมกันอยู่ณรอบๆพระแท่นบูชาขององค์พระเยซูเจ้าอันเป็นการยืนยันความเชื่อศรัทธาของเราในองค์พระเยซูเจ้าพระผู้ซึ่งแต่พระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงมีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร…
ข้อคิด…บทอ่านที่หนึ่งในวันอาทิตย์นี้จากหนังสือโยชูวา(ยชว24: 1-2ก, 15-17) พูดถึงพิธีการรื้อฟื้นพันธสัญญาซึ่งได้เกิดขึ้นที่เมืองเชเคมหลังจากที่ประชาชนทุกเผ่าของอิสราเอลเพิ่งได้เข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญาโยชูวาได้เรียกชุมนุมผู้อาวุโสทั้งหลายเพื่อให้พวกเขาได้ทำการตัดสินใจว่าจะรับใช้พระเจ้าองค์ใด…จะรับใช้พระเจ้าซึ่งบรรพบุรุษของพวกเขาหรือจะรับใช้เทพเจ้าอื่นๆ…ประชาชนทุกเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลต่างก็ประกาศยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า“เราจะรับใช้พระเจ้า”
เฉกเช่นเดียวกันที่ในพระวรสารของวันนี้พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกร้องประชาชนซึ่งกำลังฟังพระวาจาของพระองค์ที่กำลังกล่าวถึง“ปังแห่งชีวิต” ให้ทำการตัดสินใจว่าจะเชื่อในพระองค์และติดตามพระองค์ต่อไปหรือย่างไร…ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่มีศิษย์จำนวนหนึ่งได้ละทิ้งพระองค์ไป
“พระเจ้าข้าพวกเราจะไปหาใครเล่า? พระองค์มีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดรพวกเราเชื่อและรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”…นี่เป็นการยืนยันความเชื่อที่ชัดเจนและยิ่งใหญ่ที่สุดในพระวรสารอันทำให้พวกอัครสาวกได้เข้าใจว่าพระเยซูเจ้าเป็นผู้ใดและเสด็จมาในโลกเพื่ออะไรพระองค์มิได้เป็นแต่เพียงอาจารย์หรือผู้รักษาโรคหรือประกาศก…พระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเป็นพระบุตรพระเจ้า
พระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่ออะไร?แม้ว่าพระองค์ได้รักษาคนเจ็บป่วยและเลี้ยงอาหารผู้คนแต่ความสนใจหลักของพระองค์ก็คือการเลี้ยงดูจิตวิญญาณและหัวใจของพวกเขาด้วยสิ่งที่นักบุญเปโตรเรียกว่า“พระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร” แน่นอนพระวาจาของพระองค์นำชีวิตและสันติสุขมาให้ผู้คนดังเช่น
“จงไปในสันติสุขบาปของท่านได้รับการให้อภัยแล้ว”
“อย่ากลัวเลยเป็นเราเอง”
“ใครก็ตามที่ดื่มน้ำที่เราให้ก็จะไม่กระหายน้ำอีกเลย”
“เราเป็นปังแห่งชีวิตใครที่ทานปังนี้จะมีชีวิตอยู่นิจนิรันดร์”
“เราเป็นแสงสว่างส่องโลกใครที่เดินตามเรามาจะไม่เดินในที่มืดแต่จะมีแสงสว่างส่องชีวิตอยู่เสมอ”
“เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีเรารู้จักแกะของเราและพวกมัน
เดินตามเราเราให้ชีวิตนิรันดร์แก่พวกมัน”
“เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิตใครที่เชื่อในเราจะไม่ตายอีกเลย”
“อย่าให้จิตใจของท่านวุ่นวายและวิตกกังวลเรากำลังจะไปเตรียมสถานที่ไว้ให้ท่าน”
“ในวันนี้ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์”
“ไม่มีใครที่ได้เคยพูดเช่นคนๆนี้เลย”
แน่นอนพระเยซูเจ้าทรงมีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดรและพระวาจาเหล่านั้นของพระเยซูเจ้าได้รับการเก็บรักษาไว้สำหรับพวกเราในพระวรสาร…ทุกๆวันอาทิตย์และวันฉลองเราได้รับเชิญให้ฟังพระวาจาเหล่านั้น…
“ท่านทั้งหลายจะไปด้วยหรือ?”
ถ้อยคำที่ว่านี้กำลังพุ่งเป้ามาที่เราแต่ละคนในขณะนี้ด้วยมิใช่เป็นองค์พระเยซูเจ้าที่จะตีจากเราไปแต่เป็นเราต่างหากที่อาจจะกำลังตีจากพระองค์ไปอาจจะมีหลายๆคนที่ได้ทำและกำลังทำเช่นนี้อยู่
ในขณะนี้เราจำเป็นต้องทำการยืนยันความเชื่อแบบที่นักบุญเปโตรได้ทำ…“พระเจ้าข้าพวกเราจะไปหาใครเล่าพระองค์ทรงมีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร”ซึ่งที่จริงในขณะนี้พวกเราก็กำลังทำอยู่กำลังฟังพระวาจาของพระองค์อยู่แต่ว่าเราจะต้องรื้อฟื้นการยืนยันความเชื่อของเราในองค์พระเยซูเจ้าแบบนี้อยู่บ่อยๆในชีวิตของเราเช่นเดียวกับชนชาวอิสราเอลที่กระทำเมื่อพวกเขาเข้าไปยึดครองแผ่นดินแห่งพระสัญญา…ทุกๆวันอาทิตย์เรามีโอกาสที่จะกระทำเช่นที่ว่านี้เราต้องการให้พระเจ้าบันดาลให้ความเชื่อของเราแข็งแกร่งขึ้นและเราต้องช่วยกันทำให้ความเชื่อของเพื่อนพี่น้องแข็งแกร่งขึ้นพร้อมๆกันด้วย
ชีวิตนิรันดรมิใช่เป็นอะไรบางอย่างที่คอยเราอยู่ในอนาคตแต่ชีวิตนิรันดรนี้ได้เริ่มขึ้นแล้วในศีลล้างบาปเพียงแต่การเบ่งบานอย่างเต็มที่ของชีวิตนิรันดรนี้ยังมาไม่ถึงแต่ว่ากำลังจะมาถึงด้วยพระวาจาขององค์พระเยซูเจ้าที่เราฟังและไตร่ตรองอย่างสม่ำเสมอและนำเอาไปเป็นชีวิตของเราในแต่ละวัน
สวัสดี..พ่อวีรศักดิ์