แทนคิดสักนิด…สะกิดใจ
วันที่4 สิงหาคม
ระลึกถึงนักบุญยอห์นมารีย์เวียนเนย์พระสงฆ์
นักบุญผู้โดดเด่นองค์นี้ซึ่งพระศาสนจักรยกย่องให้เป็นแบบอย่างและองค์อุปถัมภ์ของพระสงฆ์พื้นเมืองเกิดเมื่อวันที่8 พฤษภาคม1786 ในระหว่างช่วงเวลาที่มีการต่อต้านบรรดาสมณะอย่างรุนแรง(ช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส) และช่วงที่ไม่นับถือศาสนา(สมัยของนโปเลียน โบนาปาร์ต) ท่านเป็นลูกคนที่4 ในทั้งหมด6 คนจากพ่อแม่ที่ศรัทธาอาศัยทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสตอนเด็กไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือเพราะขาดพื้นฐานการศึกษาเช่นนี้เองทำให้ท่านต้องเผชิญกับความลำบากเป็นอย่างมากในการเรียนที่บ้านเณรเพื่อเป็นพระสงฆ์และเป็นแต่เพียงลักษณะนิสัยซื่อๆและมีชีวิตจิตที่ลึกซึ้งของท่านผนวกกับคำขอร้องพิเศษจากเจ้าอาวาสของท่านจึงทำให้ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ในปีค.ศ. 1815
เมื่อบวชแล้วท่านได้รับมอบหมายให้ไปดูแลวัดเล็กๆที่ตำบลอาร์สใกล้เมืองลีอองส์อุปสังฆราชบอกท่านว่า”สัตบุรุษที่นั่นไม่ค่อยรักพระจงไปทำให้เกิดขึ้นมาให้ได้” แต่ในความเป็นจริงแล้วชาวบ้านและชาวนาถูกทอดทิ้งให้อยู่ในสถานะทางด้านฝ่ายจิตและศีลธรรมอย่างนั้นนักบุญยอห์นเวียนเนย์ได้เริ่มทำงานอย่างเงียบๆกับสัตบุรุษที่ยากจนและพวกเจ็บไข้ได้ป่วยในวัดก่อนนอกนั้นใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่ต่อหน้าศีลมหาสนิทเพื่อภาวนาขอให้ลูกแกะของท่านกลับใจและตลอดเวลา40 ปีของชีวิตที่ยังคงเหลืออยู่ท่านได้พลีกรรมโดยเฆี่ยนตัวเองจนมีเลือดออกและทำพลีกรรมอย่างเคร่งครัดทุกชนิดเพื่อใช้โทษบาปแทนพวกสัตบุรุษท่านเทศน์ด้วยภาษาง่ายๆโดยใช้ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากการดำรงชีวิตประจำวันสำหรับบรรดาเด็กผู้หญิงที่ยากจนข้นแค้นอย่างมากท่านเปิดบ้านเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กเหล่านี้ชื่อบ้าน”La Providence” ซึ่งในกาลเวลาต่อมากลายเป็นโรงเรียนและเป็นสถานที่ที่เปิดตามกันมาอย่างแพร่หลายทั่วประเทศฝรั่งเศสคณะภราดรภาพของศีลมหาสนิทก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่ด้วย
แต่งานที่สำคัญที่สุดและเกิดผลสูงสุดคือ”การให้คำแนะนำฝ่ายจิตแก่คนทั้งหลายในที่ฟังแก้บาป” ที่ซึ่งท่านใช้เวลาในแต่ละวัน14 ถึง18 ชั่วโมง(ไม่ว่าจะเป็นวันที่ร้อนมากในฤดูร้อนหรือวันที่หนาวจนสั่นในฤดูหนาว) ไม่นานต่อมาก็เป็นที่เลื่องลือว่าท่านมีความสามารถในการอ่านใจคนมีความรู้เหนือธรรมชาติต่อบาปที่ยังไม่สารภาพออกมาและสิ่งที่จะติดตามมาและโดยคำภาวนาของท่านทำให้คนป่วยได้รับการรักษาให้หายอย่างอัศจรรย์ไม่เพียงคนในหมู่บ้านที่ตำบลอาร์สเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงดีขึ้นทั้งทางด้านจิตและทางด้านจริยธรรมแต่ผู้คนเริ่มเดินทางมาหาท่านจากทุกภาคส่วนของทวีปยุโรปและอเมริกาด้วยท่านนักบุญเองเคยกล่าวไว้ว่า”ผู้ที่มีพระจิตเจ้าทรงนำทางจะสามารถมองเห็น(=อ่าน)สิ่งต่างๆได้” อีกครั้งหนึ่งท่านประกาศว่า”และนี่เองที่ทำไมคนที่โง่เขลาจึงล่วงรู้มากกว่าคนที่ปรีชาฉลาด” ผู้คนหลั่งไหลกันมามากจนต้องจัดรถบัสพิเศษเพิ่มขึ้น5 สายและต้องมีช่องขายตั๋วรถไฟพิเศษจากสถานีที่เมืองลีอองส์สำหรับผู้แสวงบุญที่มุ่งไปเมืองอาร์สถ้าจะนับจำนวนนักแสวงบุญในระยะเวลา20 ปีซึ่งรวมทั้งคนสุขภาพดีคนป่วยและคนที่ต้องทุกข์ทรมานในบรรดาคนเล่านี้มีทั้งพวกพระคาร์ดินัลพระสังฆราช(บางทีไม่เปิดเผยตน) พระสงฆ์นักบวชและฆราวาสจากทุกๆรูปแบบของชีวิตรวมแล้วเกินกว่า2 ล้านคน
นักบุญยอห์นเวียนเนย์เป็นผู้มีใจร้อนรนอย่างมากและมีความเป็นมิตรดียิ่งมีความอดทนและสุภาพเป็นที่สุดพูดตามภาษามนุษย์แล้วการกินและนอนที่น้อยเกินไปตลอดระยะเวลา40 ปีในงานอภิบาลของท่านย่อมไม่สามารถทำให้ท่านมีชีวิตต่อไปได้พวกชาวบ้านเหล่านี้เองยังเป็นพยานว่าท่านได้ทนทรมานจากฤทธิ์อำนาจของปีศาจเป็นเวลาหลายปีบั้นปลายชีวิตท่านได้รับตำแหน่งทรงเกียรติเป็นHonorary Canon of Lyons และรัฐบาลฝรั่งเศสให้เกียรติแก่ท่านด้วยตำแหน่งอัศวินA Knighthood of the Legion of Honor ซึ่งแน่นอนว่าท่านไม่ได้สนใจตำแหน่งใดๆทางฝ่ายโลกนี้อยู่แล้ว
ท่านสิ้นใจในวันที่4 สิงหาคม1859 และได้รับการแต่งตั้งเป็นนักบุญโดยพระสันตะปาปาปีโอที่11 ในปีค.ศ.1925
(ถอดความโดยคุณพ่อวิชาหิรัญญการจากหนังสือSaint Companions For Each Day; เขียนโดยA.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)