ข้อคิดวันอาทิตย์ที่23 เทศกาลธรรมดาปีC
ลก14: 25-33…ถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่าบิดามารดาภรรยาบุตรพี่น้องชายหญิงและแม้กระทั่งชีวิตของตนเองผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้…ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเราผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้…
เรามักจะวัดค่าของคนจากความเสียสละที่อุทิศให้กับงานที่ได้รับมอบหมาย…เราคงไม่สามารถคาดหวังที่จะเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระคริสต์ได้โดยที่ไม่ต้องออกแรง…ให้เราได้ทำไตร่ตรองว่าการเป็นคริสตชนสำหรับเราให้ความหมายอะไร?…และมีผลกระทบต่อชีวิตของเราอย่างไรบ้าง?…ให้เราอธิษฐานขออภัยโทษจากพระเจ้าที่เรายอมปล่อยให้ความกล้าๆกลัวๆและความเห็นแก่ตัวเข้ามาครอบงำตัวเราทำให้เราอ่อนแอที่จะอุทิศตนเพื่อพระเจ้า
ข้อคิด…บรรดาศาสดาของทุกศาสนาที่ใหญ่ๆของโลกต่างก็อยากจะได้อยากจะมีสานุศิษย์มากๆที่ใส่ใจต่อคำสอนของพระศาสดาของตนนำเอาไปปฏิบัติในชีวิตและสอนคนอื่นต่ออันจะเป็นการสานต่อคำสั่งสอนของศาสดาของตน…นักบุญลูกาได้กล่าวถึงการเป็นศิษย์พระเยซูเจ้าของคริสตชนไว้สามประการด้วยกันโดยมุ่งเน้นไปที่การอุทิศตนทั้งครบซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเป็นผู้ติดตามพระคริสตเจ้า…เห็นได้ชัดว่านักบุญลูกาตั้งใจให้เรื่องนี้เป็นแนวทางสำหรับชุมชนของคริสตชนซึ่งมีความพยายามที่จะหาคำจำกัดความและทำความเข้าใจกับคำว่า“การเป็นศิษย์” ได้อย่างถูกต้องและอย่างมีความหมาย
ประการแรก…”การอุทิศตนทั้งครบ” ในฐานะคริสตชนเกี่ยวข้องกับการให้พระเยซูเจ้าอยู่เป็นลำดับแรกของชีวิตของตนนักบุญลูกาใช้คำว่า“เกลียด” ญาติพี่น้องเกลียดในที่นี้มิได้มีความหมายตามตัวอักษรแต่เป็นการหมายถึงการแสดงออกซึ่งความรักที่น้อยกว่าเป็นการใช้ภาษาที่นักบุญลูกาต้องการเน้นให้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัวต้องมาเป็นที่สองรองจากการเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า
ประการที่สอง…การอุทิศตนทั้งครบหรือการติดตามพระเยซูเจ้านั้นเกี่ยวข้องกับ“การแบกกางเขน” ของแต่ละคนนั่นก็คือเขาจะต้องพบกับอุปสรรคและความทุกข์ยากลำบากต่างๆนาๆมากบ้างน้อยบ้างหนักบ้างเบาบ้างตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้าพระอาจารย์และการแบกกางเขนของการเป็นศิษย์นี้เรียกร้องความซื่อสัตย์และความมั่นคงจนถึงที่สุดพลางวางใจในความช่วยเหลือและการสนับสนุนของพระองค์และมั่นใจว่าตนจะไม่ถูกทอดทิ้งและถูกโดดเดี่ยวในการแบกกางเขนที่อาจจะเหลือบ่ากว่าแรงของตน
ประการที่สาม…คริสตชนที่ต้องการเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าต้อง”ตัดสละจากทรัพย์สมบัติ”ต่างๆเพื่อจะได้สามารถติดตามพระองค์ได้อย่างอิสระเสรีและอย่างพร้อมที่จะสนองตอบพระองค์ในทุกๆเรื่องด้วยเหตุนี้พระเยซูเจ้าจึงทรงประกาศว่า“ทุกท่านที่ไม่ยอมสละทุกสิ่งที่ตนมีอยู่ก็เป็นศิษย์ของเราไม่ได้” สมาชิกของพระศาสนจักรซึ่งเป็นชนชั้นกลางและชนชั้นที่ร่ำรวยมีชีวิตที่มีความมั่นคงแล้วต้องรู้จักแบ่งปันทรัพย์สมบัติของตนให้กับผู้ขาดแคลนผู้ด้อยโอกาสฯลฯ… นักบุญลูกาเองมักจะประนามผู้สะสมความร่ำรวยไว้สำหรับตัวเองอย่างรุนแรงดังนั้นผู้ที่ติดตามพระเยซูเจ้าและต้องการเป็นศิษย์ของพระองค์จึงต้องไม่ผูกพันกับทรัพย์สมบัติทั้งปวงเพื่อจะได้ติดตามพระองค์อย่างสะดวกสบายใจขึ้นและอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามความเห็นของนักบุญลูกาทั้งสามประการที่เกี่ยวข้องกับการเป็นศิษย์นี้มิใช่เป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนสามารถรับได้ก่อนที่จะยอมรับ“การเป็นศิษย์ของพระเยซู” แต่ละคนควรจะได้คาดคะเนถึงสิ่งที่จะต้องเสียสละอย่างรอบคอบและอย่างเข้าใจถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้นผู้ที่ต้องการเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าควรเป็นเหมือนผู้สร้างหอคอยที่ต้องนั่งลงและคิดคำนวณถึงราคาว่าจะมีเงินพอเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างหอคอยจนสำเร็จหรือไม่“มิฉะนั้นเมื่อวางรากฐานไปแล้วแต่สร้างไม่สำเร็จทุกคนที่เห็นจะหัวเราะเยาะเขาพูดว่าคนนี้เริ่มก่อสร้างแต่ทำให้สำเร็จไม่ได้” ซึ่งเท่ากับว่าเมื่อเราได้ทำการตัดสินใจว่าจะติดตามพระเยซูเจ้าแล้วก็จะต้องติดตามพระองค์ไปจนถึงที่สุดไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือแม้จะต้องสละชีวิตของตนเองก็ตามตามแบบอย่างของบรรดาอัครสาวกและบรรดานักบุญ
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์