แทนคิดสักนิด…สะกิดใจ
เรื่องเล่าในช่วงเวลาแห่งความรักและดูแลกัน #เดินไปด้วยกัน ในวันที่มืดมน
ท่ามกลางข่าวที่น่าตื่นตระหนก ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ข่าวต่าง ๆ และเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟัง และเสพล้วนหนักไปทางด้านลบและยิ่งพาไปสู่ความท้อถอยหม่นหมอง
ในมุมของศาสนา ความเชื่อ การปฏิบัติศาสนกิจย่อมได้รบผลกระทบเช่นกัน ผมสังเกตเรื่องบางเรื่องในท่ามกลางข่าวที่น่าตื่นตระหนกนี้ กลับเสริมแรงพลังให้เข้มแข็ง เป็นต้นในมุมของความเชื่อ ศรัทธา ความหวัง และนี้คือบางเรื่องจากที่ผมพบเจอ และนำมาเล่าต่อ
เรื่องที่ 1 แม้จะงดหรือปิด เราก็จะไม่หยุดเสริมสร้างชีวิตให้แก่กัน
คุณพ่อ Scott Holmer แห่งวัดคาทอลิกนักบุญเอ็ดเวิร์ด ตั้งอยู่ที่โบวี่ ในอัครสังฆมณฑลวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศงดมิสซาสาธารณะตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา จากเหตุผลการแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโคโรน่า 2019
คุณพ่อได้แจ้งให้บรรดาสัตบุรุษผ่านทางเว็บไซส์ทางการของวัด โดยบอกว่า “มิสซาเป็นหัวใจของชีวิตร่วมกันของความเป็นคริสตชน มันคงเป็นสาเหตุแห่งความเศร้าใจเนื่องจากพวกเราไม่สามารถมาร่วมมิสซาพร้อมกันได้ อันเนื่องมาจากเหตุผลทางสุขภาพ ซึ่งเกิดจากวิกฤติของโลกระบาดที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
พ่อขอให้พี่น้องร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในคำภาวนา และในช่วงเวลาที่พ่อถวายมิสซาส่วนตัว และเป็นดังศิษย์พระคริสต่ในช่วงเวลาของเทศกาลมหาพรต ในการคำภาวนา ในการจำศีลอดอาหารและในกิจเมตตาต่าง ๆ และดังนั้น พ่อจึงไม่แน่ว่า วัดของเราจะสามารถเปิดให้มาร่วมมิสซารวมทั้งรับผู้มาเยือนอีกทีเมื่อไหร่ พ่อจึงได้จัดให้มีการแก้บาปในลักษณะขับผ่าน (Drive Through)และรับฟังแก้บาปในบริเวณที่จอดรถ ห่างประมาณ 6 ฟุต ขณะที่การบอกบาปจะทำมาจากในรถของพี่น้อง”
นอกจากนั้นคุณพ่อยังได้ขอให้สามเณร Joseph McHenry มาดูแลเรื่องจราจร (จัดรถเข้าออก คิวต่างๆ…ผู้เขียน) แต่ถ้าปรารถนาจะแก้บาปแบบใช้ที่ฟังแก้บาปก็สามารถทำได้ “สิ่งเหล่านี้อาจจะถูกปฏิบัติต่อไป จนเลยออกไปจากเทศกาลมหาพรตก็ได้”
คุณพ่อได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “พ่อเชื่อว่า พระเป็นเจ้าเชื้อเชิญเราให้เพิ่มความมั่นใจในการสร้างความมั่งคั่งสู่เพื่อนพี่น้อง และเปิดโอกาสให้ทุกคนก้าวไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ มันช่างเป็นช่วงเวลามหาพรตแห่งการเป็นทุกข์ถึงบาปที่ยิ่งใหญ่ สำหรับพวกเรา”
จาก Facebook: Anucha Chaiyadej