วันอาทิตย์ 28 พฤศจิกายน 2021 เตรียมรับเสด็จ 1
บทอ่านจากคำสอนของนักบุญซีริล แห่งเยรูซาเล็ม พระสังฆราช
การเสด็จมาสองครั้งของพระคริสตเจ้า
เราไม่ได้ประกาศถึงการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าเพียงครั้งเดียว แต่ครั้งที่สองด้วย และรุ่งโรจน์กว่าครั้งแรกมาก ครั้งแรกแสดงถึงความพากเพียร และครั้งที่สองจะเสด็จมาและทรงสวมมงกุฎแห่งพระอาณาจักรสวรรค์
โดยทั่วๆ ไป เกี่ยวกับพระเยซูคริสตเจ้าแล้วมีสองลักษณะ คือการบังเกิดจากพระเจ้าก่อนกาลเวลา และการบังเกิดจากพระนางพรหมจารีเมื่อถึงกำหนดเวลา การเสด็จมาอย่างซ่อนเร้นเหมือนฝนรดบนขนแกะ และการเสด็จมาต่อหน้าต่อตาทุกคน ซึ่งยังเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ในการเสด็จมาครั้งแรก พระกายของพระองค์ถูกพันด้วยผ้าอ้อม บรรทมในรางหญ้า การเสด็จมาครั้งที่สองนั้นพระองค์จะทรงฉลองพระองค์ด้วยความสว่าง ในการเสด็จมาครั้งแรกพระองค์ทรงรับแบกกางเขนด้วยความอับอาย ในการเสด็จมาครั้งที่สอง พระองค์จะทรงรุ่งโรจน์ด้วยพระสิริและล้อมรอบด้วยบรรดาทูตสวรรค์ ดังนั้น เราจึงมองเลยไปจากการเสด็จมาครั้งแรกและรอคอยการเสด็จมาครั้งที่สอง ในการเสด็จมา ครั้งแรกเรากล่าวว่า “เป็นบุญของผู้ที่เสด็จมาในพระนามของพระเจ้า” และในครั้งที่สอง เราจะกล่าวอีกว่า เราจะออกไปพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เพื่อพบพระองค์และกล่าวนมัสการพระองค์ว่า “เป็นบุญของผู้ที่เสด็จมาในพระนามของพระเจ้า”
พระผู้ไถ่จะเสด็จมา ไม่ใช่เพื่อรับการพิพากษาอีก แต่เพื่อพิพากษาผู้ที่ได้พิพากษาพระองค์ ในเมื่อพระองค์ได้ถูกพิพากษาพระองค์ทรงนิ่งเงียบ ดังนั้น พระองค์จะทรงกล่าวโทษผู้ที่ได้กระทำทารุณกรรมในการตรึงกางเขนพระองค์ว่า “พวกเจ้าได้ทำสิ่งเหล่านี้และเราได้นิ่งเงียบ”
พระองค์เสด็จมาครั้งแรกเพื่อให้แผนการแห่งความรักของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ เพื่อสอนมนุษย์ด้วยการเชิญชวนอย่างสุภาพ การเสด็จมาครั้งนี้ มนุษย์เราจะพอใจหรือไม่ก็ตาม แต่พวกเขาจำต้องอยู่ใต้การปกครองในพระอาณาจักรของพระองค์ ประกาศกมาลาคีกล่าวถึงการเสด็จทั้งสองครั้งว่า “และพระเจ้าที่พวกเจ้าเฝ้าคอยก็จะเสด็จมายังพระวิหารของพระองค์อย่างฉับพลัน” นี่คือการเสด็จมาครั้งแรก
และท่านกล่าวถึงการเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งว่า ดูเถิด พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพจะเสด็จมา และใครจะทนอยู่ได้ในวันที่พระองค์เสด็จมา หรือใครจะยืนหยัดอยู่ได้ เฉพาะพระพักตร์พระองค์ เพราะว่าพระองค์เสด็จมาดังไฟถลุงแร่ ประดุจสบู่ของช่างซักฟอก และพระองค์จะประทับนั่งเพื่อถลุงและชำระให้บริสุทธิ์”
การเสด็จมาทั้งสองครั้งนี้ นักบุญเปาโลได้กล่าวในจดหมายถึงทิตัสว่า “พระหรรษทานของพระเป็นเจ้าได้ปรากฏสำหรับความรอดของมนุษย์ทุกคน สอนเราให้ทิ้งความอธรรมและราคะตัณหาทางเนื้อหนัง และให้เจริญชีวิตอย่างมัธยัสถ์ ด้วยความศรัทธาและยุติธรรมในโลกนี้รอคอยการปรากฏของพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และพระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ไถ่ ด้วยความไว้ใจอย่างศักดิ์สิทธิ์” จงสังเกตว่าท่านกล่าวถึงการเสด็จมาครั้งแรก เป็นการเชิญชวนให้เราขอบพระคุณพระเป็นเจ้า และการเสด็จมาครั้งที่สองซึ่งเรายังคงรอคอย
ฉะนั้น นี่คือเหตุผลที่ความเชื่อซึ่งเรายืนยันได้ถูกสืบทอดต่อมาถึงพวกท่านด้วยถ้อยคำว่า “พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา และพระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ เพื่อพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด”
ฉะนั้น พระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของเราจะเสด็จมาจากสวรรค์ พระองค์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์ในวันสุดท้ายเมื่อสิ้นพิภพ นี่แหละคืออวสานของโลกนี้ และโลกที่ได้ถูกสร้างสรรค์มานี้จะได้รับการเนรมิตขึ้นใหม่
<แบ่งปัน>
วันนี้เราคริสตชนเหมือนเริ่มต้นปีใหม่ ใหม่ในปีพิธีกรรม เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ไม่เพียงเป็นช่วงเวลาที่เราระลึกถึงการเสด็จมาบังเกิดของพระเยซูเจ้า หรือการเสด็จมาครั้งสุดท้ายในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ แต่เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เปิดใจต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิตของเราและในโลก ในความรัก ความใจกว้าง ความเมตตากรุณาและการให้อภัยของเรา ที่พึงมีต่อกันในสังคม หมู่คณะและหมู่บ้านของเราซึ่งในพิธีกรรมกำลังย้ำเตือนว่าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติกำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายที่แน่นอน นั่นคือ “การเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสตเจ้า” (ลก 21:27) โลกจะมีวันสิ้นสุด พระเยซูคริสตเจ้าจะเสด็จมาพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย และพระองค์จะเป็นเจ้านายเหนือสรรพสิ่ง
แต่ความกังวลเรื่องวันและเวลาที่พระองค์จะเสด็จกลับมานั้น เราไม่จำเป็นต้องรู้ และไม่จำเป็นต้องถกเถียงหรือคาดเดาให้เสียเวลาเปล่าๆ เพราะแม้แต่พระเยซูเจ้าเองก็ไม่ทรงทราบ และทรงปล่อยให้เป็นเอกสิทธิ์ของพระบิดาที่จะดำเนินการตามพระประสงค์ของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นเราจงใช้เวลาเตรียมพร้อมต้อนรับพระองค์ไม่ดีกว่าหรือ? เพื่อเป็นผู้ที่เหมาะสมเมื่ออยุ่ต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า
พระวรสารวันนี้เตือนใจเราว่า เราต้องตื่นเฝ้าภาวนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อเราจะได้มีความเข้มแข็งในการต่อสู้และเอาชนะความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆ ในชีวิตเรา อีกทั้งตื่นเฝ้าเพื่อต้อนรับและจดจำพระเยซูเจ้าที่เสด็จมาหาเราในบุคคล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ ในแบบที่เราคาดไม่ถึง เราจึงต้องดำเนินชีวิตคริสตชนของเราในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯนี้ด้วยความเชื่อ ก้าวเดินไปด้วยความหวังและรื้อฟื้นชีวิตของเราในแต่ละวันด้วยความรัก เพื่อเราจะได้ต้อนรับและจำพระองค์ได้…