ข้อคิดประจำวันอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี C
ลก 21: 25-28, 34-36…จงระวังให้ดี อย่าปล่อยใจของท่านให้หมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานรื่นเริง ความเมามายและความกังวลถึงชีวิตนี้…วันนั้นจะมาถึงอย่างฉับพลัน…ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด เพื่อท่านจะมีกำลังหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นนี้ ไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์บุตรแห่งมนุษย์ได้…
…เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเน้นให้เราสนใจในการเสด็จมาขององค์พระเยซูเจ้าคริสตเจ้า เรามีชีวิตอยู่ระหว่างการเสด็จมาสองครั้งของพระองค์…การเสด็จมาครั้งแรกของพระองค์ในความต่ำต้อยและในความอ่อนแอที่เบธเลเฮ็มกับการเสด็จมาครั้งที่สองในความสง่างามและในฤทธานุภาพ ณ เวลาสิ้นโลก…นักบุญเปาโลบอกกับพวกเราว่าทุกๆปีที่ค่อยๆผ่านพ้นไปนั้น ก็จะทำให้เราเขยิบเข้าใกล้การช่วยให้รอดพ้นของพระเจ้าทุกขณะ…ดังนั้นในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ ให้เราได้รำพึงไตร่ตรองถึงการช่วยให้รอดพ้นของพระองค์ที่ได้ทรงนำมาให้มวลมนุษยชาติเป็นพิเศษ…
ข้อคิด…จุดประสงค์ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า คือช่วยเราให้ได้เตรียมตัวสำหรับการสมโภชพระคริสตสมภพ…ไม่มีใครสามารถเข้าใจข่าวดีของพระคริสตสมภพได้นอกจากจะได้ทำความคุ้นเคยกับหัวข้อที่สำคัญๆของประวัติศาสตร์แห่งการช่วยให้รอดพ้น
พิธีกรรมของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าจะช่วยให้เราหยิบยกเอาประวัติศาสตร์ของชนชาติอิสราเอลขึ้นมาอ่านใหม่และทำการไตร่ตรองใหม่และซึมซับประวัติศาสตร์นี้มาเป็นชีวิตของเราแต่ละคน ดังนั้นให้เรามองภาพประวัติศาสตร์นี้ด้วยสายตาแห่งความเชื่อแบบคริสตชน เพราะประวัติศาสตร์ของชนชาติอิสราเอลได้ชี้นำมนุษยชาติให้หันไปหาองค์พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระบุคคลซึ่งได้กระทำสำเร็จบรรดาคำทำนายต่างๆของเหล่าท่านประกาศกทั้งหลาย
เทศกาลเตรียมรับเสดจพระคริสตเจ้าจะนำเรากลับไปยังอดีตเพื่อว่าเราจะได้รู้สำนึกในค่านิยมแห่งความยิ่งใหญ่ที่พวกเราได้รับเป็นมรดกตกทอดกันมา เราเป็นผู้รับมรดกแห่งพระสัญญาที่พระเจ้าได้ทรงกระทำกับบรรดาประกาศกไว้ ดังนั้นเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าจะช่วยเราให้รู้สำนึกถึงพระพรอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าได้ทรงประทานให้กับเรามนุษย์ในองค์พระคริสตเจ้า
บทอ่านที่หนึ่ง ของพระวาจาพระเจ้าในวันอาทิตย์ที่หนึ่งเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ (ยรม 33: 14-16) ท่านประกาศกเยเรมีย์ มุ่งชี้ไปยังการเสด็จมาครั้งแรกของพระคริสตเจ้า พลางบอกว่าพระเมสสิยาห์จะถือกำเนิดมาจากวงศ์วานของกษัตริย์ดาวิดและพระอาณาจักรของพระองค์จะมีหมายสำคัญแห่งพระปรีชาญาณ ความยุติธรรมและความสมบูรณ์พรั่งพร้อม
ส่วนพระวรสาร ก็จะกล่าวถึงการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระคริสตเจ้า บรรดาคริสตชนรุ่นแรกๆต่างเชื่อกันว่าการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้โดยมีเหตุการณ์เครื่องหมายสัญญาณต่างๆแห่งสากลจักรวาลอุบัติขึ้นก่อน บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าถูกเร่งรัดให้รอคอยการเสด็จกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความเชื่อมั่น การเฝ้าระวังและด้วยการอธิษฐานภาวนา
เราจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจของเราอย่างไรสำหรับการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งขององค์พระคริสตเจ้า ก็เป็นหัวข้อสำคัญของบทอ่านที่สอง จากจดหมายของนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่หนึ่ง …เราจะต้องดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า… (1 ธส 3: 12-4: 2)
ทุกๆปีในวันอาทิตย์แรกของปีพิธีกรรม พระศาสนจักรจะเชิญชวนบรรดาสัตบุรุษให้ค่อยๆเริ่มไตร่ตรองถึงหนทางแห่งชีวิตที่พวกเขาจะต้องเดินตลอดทั้งปี โดยปฏิบัติตามคำสั่งสอนและเดินตามแบบอย่างชีวิตขององค์พระเยซูเจ้า เราจะค่อยๆเข้าไปในพระธรรมล้ำลึกแห่งชีวิตของพระองค์บนแผ่นดินโลกนี้ โดยเริ่มตั้งแต่การสมภพ การใช้ชีวิต การสิ้นพระชนม์ การเสด็จกลับคืนชีพ การเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระองค์และการส่งพระจิตมายังอัครสาวก
ขอให้การเริ่มต้นปีพิธีกรรมของพวกเรา ได้ปลุกเร้าจิตใจของเราให้ตื่นตัวเร่าร้อนในการเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้า
ทุกๆปีให้เราฟังเรื่องราวของพระเยซูเจ้าอย่างตั้งใจดียิ่งขึ้น เข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นและทำให้เป็นเรื่องราวแห่งชีวิตส่วนตัวของเราด้วย…ขอให้เรื่องราวชีวิตของเราแต่ละคนได้เข้าไปผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวและได้รับการส่องสว่างจากเรื่องราวชีวิตขององค์พระเยซูเจ้า อันจะทำให้เราเจริญชีวิตด้วยความชื่นชมยินดีมากยิ่งขึ้น
วันอาทิตย์นี้ ต้องถือว่าเป็นโอกาสดีแห่งพระหรรษทานที่พระเจ้าทรงประทานให้เราแต่ละคนได้ทำการเริ่มต้นใหม่ในการติดตามองค์พระเยซูเจ้า…พระวาจาในวันนี้ มุ่งไปที่การเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์และเหตุการณ์แห่งวาระสุดท้ายของโลก…เหตุผลก็คือว่า ก่อนที่เราจะเดินทาง เราจะต้องรู้เป้าหมายของการเดินทางของเราเสียก่อน และเป้าหมายของการเดินทางแห่งชีวิตคริสตชนของเรา ก็คือต้อนรับการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งขององค์พระเยซูเจ้า
คริสตชนรุ่นแรกๆเชื่อว่าการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระเยซูเจ้าอยู่ใกล้ตัวและจะมีเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวทั้งบนท้องฟ้าและบนโลกเกิดขึ้นเป็นเสมือนบทนำก่อน แต่พระเยซูเจ้ากลับบอกเราว่าวันนั้นจะเป็นวันแห่งการช่วยให้รอดพ้นสำหรับบรรดาศิษย์ของพระองค์ โลกมนุษย์เรามิได้กำลังมุ่งไปสู่ความพินาศหรือการถูกทำลาย แต่กำลังมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ คือการเปลี่ยนแปลงเป็นอาณาจักรพระเจ้าในเกียรติมงคลอันรุ่งโรจน์ ดังนั้น เราจึงไม่ควรกลัวการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์ แต่ให้เราคอยด้วยความหวัง การตื่นเฝ้าและการอธิษฐานภาวนา
สิ่งที่เราแต่ละคนจะต้องเป็นห่วงมากกว่า ก็คือวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเราแต่ละคน อันเราสามารถชี้เป็นชี้ตายได้ว่าจะให้เป็นเช่นไร…ให้ไปรับความสุขนิรันดร์ หรือให้ไปรับความทุกข์ทรมานชั่วนิรันดร์…ส่วนเรื่องวาระสุดท้ายของโลกนั้น อยู่ในพระหัตถ์พระเจ้าว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรและอย่างไร ก็แล้วแต่พระองค์
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์