ข้อคิดอาทิตย์(ใบลาน) พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า ปี C
ลก 22: 14-23, 56…เราปรารถนาอย่างยิ่งจะกินปัสกาครั้งนี้ร่วมกับท่านก่อนจะรับทรมาน…
ในวันนี้ เราเริ่มต้นอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการรำลึกถึงธรรมล้ำลึกแห่งพระทรมาน การสิ้นพระชนม์และการเสด็จกลับคืนพระชนมชีพขององค์พระเยซูคริสตเจ้า…พระองค์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพราะบาปของมวลมนุษยชาติ ดังนั้น ให้เราได้รำลึกถึงบาปของเราแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาปที่เป็นการทำร้ายหรือทำลายเพื่อนพี่น้องของเรา พลางขออภัยโทษและความรักจากพระองค์
ข้อคิด…พระทรมานของพระเยซูเจ้าที่นักบุญลูกาเล่าให้เราฟังในวันอาทิตย์ใบลานนี้ จะเน้นไปที่ปีศาจมารร้ายซึ่งได้ละจากพระเยซูเจ้าไป หลังจากที่ได้ไปทำการผจญล่อลวงพระองค์ในถิ่นทุรกันดารก่อนที่พระองค์จะทรงเริ่มพระภารกิจสาธารณะของพระองค์…บัดนี้ได้กลับมาแล้ว โดยเข้าไปสิงอยู่ในตัวยูดาสให้ทรยศพระองค์และนักบุญเปโตรให้ปฏิเสธพระองค์…ตลอดพระวรสารของนักบุญลูกา ท่านได้พยายามที่จะถ่ายทอดภาพลักษณ์ของพระเยซูเจ้าว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ไถ่ของมนุษยชาติซึ่งมีพระทัยอ่อนโยนเมตตาสงสารและพร้อมที่จะให้อภัย…พระองค์ทรงพร้อมที่จะให้อภัยแก่เพชฌฆาตและผู้ร้ายซึ่งถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระองค์
และเพื่อที่จะเข้าใจข่าวสารแห่งพระทรมานของพระเยซูเจ้า เราต้องเปิดอ่านดูครึ่งแรกของหนังสือกิจการของอัครสาวกของนักบุญลูกา…พระเยซูเจ้าซึ่งได้ถูกกล่าวโทษจากพวกพระสงฆ์ผู้ใหญ่ต่อหน้าผู้ว่าราชการชาวโรมัน เป็นการเตรียมเส้นทางเดินแห่งชีวิตให้กับนักบุญเปาโลซึ่งจะถูกนำไปไต่สวนต่อหน้าพวกที่เป็นอริกับท่านเช่นเดียวกัน…และพระเยซูเจ้า พระผู้ไม่มีมลทินบาปแต่ประการใด กำลังจะสิ้นพระชนม์ ได้ทรงร้องขอการให้อภัยจากพระบิดาเจ้าสำหรับพวกศัตรูของพระองค์ พลางมอบจิตวิญญาณของพระองค์แด่พระเจ้า พระบิดา อันเป็นการเตรียมเส้นทางเดินแห่งชีวิตสำหรับมรณสักขีคริสตชนท่านแรก คือนักบุญสเทเฟนซึ่งก่อนสิ้นใจ ด้วยการเปล่งเสียงแห่งอารมณ์ความรู้สึกอย่างเดียวกันกับของพระอาจารย์เจ้าว่า “ข้าแต่พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดรับวิญญาณของข้าพเจ้าด้วย…ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดอย่าทรงลงโทษพวกเขาเพราะบาปนี้เลย”
วันอาทิตย์ใบลานเป็นวันฉลองที่ไม่ได้ถูกกำหนดไว้อย่างตายตัวว่าต้องเป็นวันเดียวกันของทุกๆปี แต่จะเป็น “วันอาทิตย์หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันอาทิตย์ปัสกา” ตามวันทางจันทรคติ วันฉลองนี้รำลึกถึงเหตุการณ์หนึ่งซึ่งได้มีเล่าไว้ในพระวรสารทั้งสี่ คือ มก 11: 1-11, มธ 21: 1-11, ลก 19: 28-44 และ ยน 12: 12-19 คือ ”การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้มีชัยของพระเยซูเจ้าในช่วงเวลาก่อนพระทรมานของพระองค์”
ในวันอาทิตย์ใบลาน ตามวัดต่างๆ จะมีการแจกกิ่งไม้เล็กๆหรือใบลานใบจากที่สานเป็นรูปต่างๆโดยไม่ได้ให้ความหมายเฉพาะเจาะจงเท่าใดนักเกี่ยวกับวันฉลอง แก่บรรดาผู้ที่เข้าร่วมพิธี
ตามที่ได้มีเล่าไว้ในพระวรสาร ก่อนที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่านั้น พระองค์ทรงแวะไปที่หมู่บ้านเบธานีและเบทฟายีใกล้กับภูเขามะกอกเทศ และพระวรสารของนักบุญยอห์น ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าพระองค์ได้ทรงร่วมรับประทานอาหารกับลาซารัส พร้อมกับมารธาและมารีย์น้องสาวด้วย ในขณะที่พระวรสารสหทรรศน์(สาม ฉบับแรก)ได้เล่าว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงส่งสาวกของพระองค์สองท่าน โดยมิได้เอ่ยชื่อว่าเป็นใคร ให้ไปจัดหาลูกลาซึ่งยังไม่มีผู้ใดขึ้นไปขี่ มาให้พระองค์ตัวหนึ่ง และถ้าหากมีใครถามว่าจะเอาลูกลาไปทำไม ก็ให้บอกว่าเจ้านาย(พระเยซูเจ้า)ต้องการใช้ แต่จะส่งกลับคืนให้ทันทีหลังจากที่ใช้มันเสร็จแล้ว…พอได้ลูกลามา พวกสาวกก็เอาเสื้อคลุมของตนมาปูบนหลังลูกลา แล้วนั้นให้พระเยซูเจ้าเสด็จทรงลูกลาตัวนั้นเข้ากรุงเยรูซาเล็ม พระวรสารได้เล่าต่อไปว่าพระองค์ได้ทรงลูกลาเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างไร…ประชาชนจำนวนมากได้ปูเสื้อคลุมของตนบนทางเดิน บางคนก็ตัดกิ่งไม้มาวางบนทางเดิน ประชาชนทั้งที่เดินไปข้างหน้าและที่ตามมาข้างหลัง ต่างโห่ร้องว่า “โฮซานนา แด่โอรสของกษัตริย์ดาวิด ขอถวายพระพรแด่ผู้มาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า โฮซานนา ณ สวรรค์สูงสุด” (สดด 118: 25-26) ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าพระเยซูเจ้าได้เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มทางประตูไหน นักพระคัมภีร์หลายๆท่านบอกว่าน่าจะเป็นทาง “ประตูทอง” (Golden Gate) เพราะชาวยิวส่วนหนึ่งเชื่อว่าพระแมสสิยาห์จะต้องเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มผ่านทางประตูนี้
เป็นธรรมเนียมที่มักจะปฏิบัติกันในประเทศตะวันออกกลางโบราณ ที่จะปูคลุมทางเดินสำหรับผู้ที่ประชาชนคิดว่าเหมาะสมที่จะได้รับเกียรติสูงสุดนั้น ให้เดินผ่านบนทางเดินที่ว่านี้ เช่นในหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่สอง (9: 13) ได้เล่าว่าเจ้าชายเยฮู โอรสของกษัตริย์เยโฮซาฟัท ก็ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน พระวรสารสหทรรศน์และของนักบุญยอห์น ก็ได้เล่าว่าประชาชนชาวยิวได้ให้เกียรติพระเยซูเจ้าแบบนี้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม พระวรสารสหทรรศน์ได้เล่าเรื่องเฉพาะที่พวกชาวยิวเอาเสื้อผ้าและเสื่อมาปูบนถนนให้พระเยซูเจ้าเดิน ในขณะที่นักบุญยอห์นได้พูดถึงเป็นการเจาะจงว่าพวกเขาได้ใช้ใบปาล์มโบกไปมาโห่ร้องถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วย…ในธรรมประเพณีของชนชาวยิว กิ่งใบปาล์มเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ แลเพราะเหตุนี้ ภาพที่ฝูงชนกำลังต้อนรับพระเยซูเจ้าพลางโบกกิ่งปาล์มไปมาและเอาเสื้อผ้าของตนมาปูเป็นทางเดินให้กับพระองค์สำหรับเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มนั้น ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของพระองค์ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระแมสสิยาห์
นักบุญแอนดรูว์แห่งครีต ได้กล่าวในโอกาสวันอาทิตย์ใบลานว่าให้เราปูที่แทบพระบาทขององค์พระเยซูเจ้า ไม่ใช่ด้วยเสื้อผ้าหรือกิ่งไม้ที่มีชีวิตและน่าดูอยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็ต้องเหี่ยวแห้งไป แต่ให้ปูตัวเราเองที่สวมใส่พระหรรษทานหรือที่ดีกว่านั้นคือปูตัวเราที่สวมใส่องค์พระคริสต์ เพราะเราที่ได้รับศีลล้างบาปในพระคริสตเจ้าแล้ว บัดนี้ความสกปรกของบาปได้รับการชำระล้างแล้วด้วยน้ำแห่งศีลล้างบาปที่นำความรอดพ้นมาให้ และทำให้เราได้กลับขาวสะอาดเหมือนขนแกะ พลางร่วมขับร้องเพลงกับเด็กๆที่ออกมาต้อนรับองค์พระเยซูคริสตเจ้าว่า
“ขอถวายพระพร แด่ผู้มาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า สาธุการแด่กษัตริย์ของอิสราเอล”
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์